เกี่ยวกับ พันธกิจเดเร็ก ปรินซ์

ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนหรือเวลาใด พันธกิจเดเร็ก ปรินซ์ มุ่งมั่นในการสอนพระคัมภีร์และแบ่งปันพระวจนะของพระเจ้าที่มีฤทธิ์อำนาจในการเปลี่ยนแปลงชีวิต ให้กับโลกที่จำเป็นต้องได้รับความจริงจากพระคัมภีร์อย่างเร่งด่วน

เราคือใคร

พันธกิจเดเร็ก ปรินซ์ เชื่อว่าชีวิตจะได้รับการเปลี่ยนแปลงเมื่อผู้คนได้พบกับพระเยซู ดังนั้นโดยการสร้างให้เป็นสาวก และการศึกษาพระวจนะของพระเจ้าอย่างถูกต้อง เราได้ปลูกฝังความคิด เสริมสร้างกำลังใจให้มุ่งมั่น และสนับสนุนผู้เชื่อให้ดำเนินชีวิตในความครบบริบูรณ์ให้สมกับที่พวกเขาได้พบกับพระเยซู

จากมรดกที่สืบทอดมาและชื่อเสียงของเดเร็ก ปรินซ์ ผู้เป็นครูสอนพระคัมภีร์ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลนั้น ทำให้พันธกิจเดเร็ก ปรินซ์ เป็นแหล่งทรัพยากรให้แก่คริสตจักร, มิชชั่นนารี, นักการศึกษาคริสเตียน, และผู้เชื่ออีกหลายล้านคนทั่วโลก ผ่านทางสำนักงานสาขาระดับประเทศและสำนักงานเผยแพร่กว่า 45 แห่ง และกิจกรรมที่ครอบคลุม 6 ทวีป ไม่เคยมีวันหยุดพักสำหรับพันธกิจเดเร็ก ปรินซ์ และความพยายามของเราในการเตรียมสาวกให้เป็นผู้สร้างสาวกของพระคริสต์

ภารกิจของเรา

สิ่งที่เราทำ

ในทุก ๆ วัน พันธกิจได้สอนพระคัมภีร์และเตรียมผู้เชื่อ ให้ติดตามพระเยซูด้วยความเชื่อ ปัญญา และความจริงที่ครบบริบูรณ์

ผ่านคำสอนที่ไม่เคยล้าสมัยของเดเร็ก ปรินซ์นั้น เราได้สร้างผู้เชื่อที่อยู่ในทุกระดับและทุกช่วงเวลาของการดำเนินชีวิตคริสเตียนเพื่อให้เป็นสาวก สำนักงานประจำภูมิภาคของเราซึ่งดำเนินงานโดยมีพระคริสต์เป็นศูนย์กลางและเป็นแนวหน้าในการสร้างคริสเตียนให้เป็นสาวกนั้น ได้ต่อสู้กับความหิวกระหายฝ่ายจิตวิญญาณด้วยการให้บริการและทรัพยากรที่หลากหลาย ซึ่งสร้างความแตกต่างอย่างแท้จริง การบริการของรวมถึง :

การฝึกอบรมผู้นำ :

เราให้ความร่วมมือกับผู้นำคริสตจักรท้องถิ่นและศิษยาภิบาล โดยจัดเตรียมทรัพยากรและสื่อการศึกษาที่มีความจำเป็นมาก เพื่อช่วยให้พันธกิจในระดับรากหญ้ามีความเข้มแข็ง

ทรัพยากรทางการศึกษา :

เราผลิตและแจกจ่ายทรัพยากรเพื่อการศึกษาในการเตรียมผู้เชื่อในทุกหนแห่ง โดยมีสื่อทั้งในรูปแบบของสิ่งพิมพ์ วีดีโอ เสียง และออนไลน์ ทรัพยากรส่วนใหญ่ที่เราผลิตนั้นให้ออกไปโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

การแปลภาษา :

ความปรารถนาอันแรงกล้าของเรา คือ การเห็นผู้เชื่อเข้าถึงคำสอนที่ถูกต้องบนพื้นฐานของพระคัมภีร์ในภาษาที่พวกเขาเข้าใจได้

หลักสูตรการศึกษาพระคัมภีร์ :

เรามีทั้งหลักสูตรการศึกษาพระคัมภีร์แบบเรียนทางไกล และแบบเรียนรู้ด้วยตนเองที่หลากหลาย เพื่อให้การศึกษาและเตรียมพร้อมผู้เชื่อ

การสนับสนุน :

เราส่งเสริมฤทธิ์อำนาจและสิทธิอำนาจของพระวจนะของพระเจ้าด้วยการสนับสนุนให้ผู้เชื่อเติบโตขึ้นในความรู้และความเข้าใจพระคัมภีร์ทั้งที่บ้าน คริสตจักร โรงเรียน และทางออนไลน์

นวัตกรรม :

พันธกิจเดเร็ก ปรินซ์ เข้าถึงผู้คนได้มากขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา ผ่านโครงการและแนวทางสร้างสรรค์แบบใหม่ ๆ การเผยแพร่ผ่านช่องทางดิจิทัลของเราใช้เทคโนโลยีเพื่อเชื่อมต่อกับผู้คนออนไลน์ ผ่านทางโซเชียลมีเดีย วิดีโอ บทความ แอปพลิเคชัน และช่องทางอื่น ๆ อีกมากมาย

ประวัติความเป็นมา

ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ. 1971 เมื่อ เดเร็ก ปรินซ์ เปิดสำนักงานอย่างเป็นทางการในโรงรถที่บ้านของเขา ในเมืองฟอร์ต ลอเดอร์เดล (Fort Lauderdale) รัฐฟลอริดา ซึ่งเดิมรู้จักกันในชื่อ สำนักพิมพ์เดเร็ก ปรินซ์ สำนักพิมพ์แห่งนี้เป็นผลมาจากการทำพันธกิจด้านการสอนพระคัมภีร์ที่เติบโตขึ้นของ เดเร็ก ปรินซ์ ซึ่งเริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ. 1944 เมื่อพระเจ้าตรัสกับเขาว่า

“เจ้าถูกเรียกมาเพื่อเป็นครูสอนพระวจนะแห่งความจริง ความเชื่อ และความรัก ซึ่งมีอยู่ในพระเยซูคริสต์ สำหรับคนทั้งหลาย”

ถ้อยคำเหล่านี้เปรียบเสมือนเชื้อเพลิงที่ผลักดันให้ความเพียรพยายามของเดเร็กในการเลี้ยงดูจิตวิญญาณที่หิวกระหายนั้นเพิ่มมากยิ่งขึ้น สิ่งนี้ยังได้สร้างแรงบันดาลใจให้เขาเขียนและตีพิมพ์หนังสือต่าง ๆ ด้วยตัวเอง เช่น Self-Study Bible Course" (1969), Liberating Truth" (1966), "Repent and Believe" (1966) และอื่น ๆ มากมาย เครื่องพิสูจน์ถึงความสำเร็จของหนังสือเหล่านี้และความสัตย์ซื่อของพระเจ้านั้น ก็คือการที่สำนักพิมพ์เดเร็ก ปรินซ์ ได้เติบโตขึ้น จากความต้องการในการตีพิมพ์ที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

ในปี ค.ศ. 1972 การผลิตหนังสือนั้นเติบโตขึ้นเกินขีดความสามารถของ เดเร็ก ปรินซ์ ในฐานะที่เป็นพนักงานเพียงคนเดียว ดังนั้นเดวิด เซลบี (David Selby - ลูกเขยของเขา) จึงได้รับเชิญให้มาช่วยงาน พวกเขาได้ร่วมกันวางแผนเส้นทางเพื่อให้พันธกิจเติบโตรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยการออกอากาศทางวิทยุ และตีพิมพ์หนังสือใหม่ ๆ ออกมา

ตลอดช่วงทศวรรษที่ 1980 มีสำนักงานต่างประเทศก่อตั้งขึ้นในประเทศนิวซีแลนด์ แอฟริกาใต้ ออสเตรเลีย แคนาดา สหราชอาณาจักร และเนเธอร์แลนด์ และความฝันที่จะสร้างบรรดาประชาติให้เป็นสาวกก็ได้เกิดขึ้นเป็นจริง เมื่อสิ้นทศวรรษนั้น เดเร็ก ปรินซ์ ได้เสร็จสิ้นการทัวร์สอนพระคัมภีร์รอบโลกสามครั้ง และรายการวิทยุของเขาก็ออกอากาศอย่างกว้างขวางไปถึง 6 ทวีป ด้วยภาษาถึง 10 ภาษา

ในปี ค.ศ. 1990 สำนักพิมพ์เดเร็ก ปรินซ์ ได้เปลี่ยนชื่ออย่างเป็นทางการเป็น พันธกิจเดเร็ก ปรินซ์ และการแจกจ่ายสื่อการสอนพระคัมภีร์ฟรีนั้นได้เพิ่มจำนวนมากขึ้น โดยมีจำนวนถึง 140 ประเทศ และปัจจุบันหนังสือของเดเร็ก ปรินซ์ ก็มีมากกว่า 50 ภาษา

ปัจจุบัน พันธกิจเดเร็ก ปรินซ์ มีสำนักงานอยู่ 45 กว่าประเทศทั่วโลก และยังคงให้คำมั่นสัญญาด้วยสุดใจที่จะสอนพระคัมภีร์ในทุกประเทศ ทุกวัฒนธรรม และทุกภาษา การเติบโตและความสำเร็จของพันธกิจยังยืนยันคำพยากรณ์ที่ เดเร็ก ปรินซ์ ได้รับในปี ค.ศ. 1941 เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า

"มันจะเป็นลำธารเล็ก ๆ ลำธารจะกลายเป็นแม่น้ำ แม่น้ำจะกลายเป็นแม่น้ำใหญ่ แม่น้ำใหญ่จะกลายเป็นทะเล ทะเลจะกลายเป็นมหาสมุทรอันยิ่งใหญ่ และมันจะเกิดขึ้นผ่านทางเจ้า แต่จะเป็นได้อย่างไรนั้น เจ้าไม่ต้องรู้, เจ้าไม่สามารถรู้ได้, เจ้าจะไม่รู้”

ด้วยความสัตย์ซื่อของพระเจ้าที่มีต่อพระวจนะนี้ (คือ คำพยากรณ์) ที่นำพาพันธกิจเดเร็ก ปรินซ์ มาถึงจุดที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และจะยังคงนำพาพันธกิจนี้ให้กลายเป็น "มหาสมุทรอันยิ่งใหญ่" ต่อไป

ด้วยคลังข้อมูลจำนวนมากของ เดร็ก ปรินซ์ ซึ่งมีทั้งงานเขียน บันทึกเสียง และสื่อภาพ ทางพันธกิจยังคงผลิตหนังสือใหม่ ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง จนถึงวันนี้ หนังสือกว่า 100 เล่มได้รับการตีพิมพ์และแปลไปแล้วกว่า 100 ภาษาทั่วโลก

สิ่งที่เราเชื่อ

คำแถลงความเชื่อ

  • พระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าองค์เที่ยงแท้เพียงองค์เดียวและทรงพระชนม์อยู่ชั่วนิรันดร์ ทรงมีสถานะเป็นสามบุคคล คือ พระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ และพระองค์ทรงเป็นพระวิญญาณ ไม่มีที่สิ้นสุด เป็นนิรันดร์กาล ไม่ทรงเปลี่ยนแปลงในความรัก พระเมตตา ฤทธิ์เดช สติปัญญา และความชอบธรรมของพระองค์1
  • พระเยซูคริสต์เจ้าทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า พระองค์ทรงบังเกิดเป็นมนุษย์ผ่านทางสาวพรหมจารีย์; พระองค์ทรงสมบูรณ์ทั้งในความเป็นพระเจ้าและความเป็นมนุษย์; พระองค์ทรงเต็มใจสละพระชนม์ชีพของพระองค์ถวายเป็นเครื่องบูชาที่สมบูรณ์แบบและเพียงพอเพื่อชดใช้หนี้บาปแทนมนุษย์; โดยผ่านการชดใช้หนี้บาปของพระองค์ มนุษย์สามารถรับรู้ถึงอิสรภาพจากการลงโทษ ความรู้สึกผิด และผลกระทบของบาป; พระองค์ทรงเป็นขึ้นมาจากความตายโดยมีพระกายอันทรงพระสิริ และขณะนี้พระองค์ทรงประทับในสวรรค์เพื่อวิงวอนเผื่อผู้เชื่อ และพระองค์จะเสด็จกลับมาในพระกายอันทรงพระสิริเพื่อสถาปนาอาณาจักรของพระองค์2
  • พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงมีความเท่าเทียมกันในทุกคุณลักษณะของพระเจ้ากับพระเจ้าพระบิดา และพระเจ้าพระบุตร พระองค์ทรงกระทำการอัศจรรย์แห่งการบังเกิดใหม่ในผู้ที่ต้อนรับพระคริสต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอด และปัจจุบันพระองค์ทรงสถิตอยู่ในผู้เชื่อ พระองค์ทรงผนึกตราผู้เชื่อไว้จนถึงวันแห่งการไถ่ พระองค์ทรงให้อำนาจแก่พวกเขาในการรับใช้ และมอบของประทานแห่งพระคุณ เพื่อเสริมสร้างพระกายของพระคริสต์3
  • “ความจริง” นี้เป็นสิ่งที่สมบูรณ์และตั้งอยู่บนพื้นฐานที่ไม่มีอคติใด ๆ ความจริงเรื่องการไถ่บาปมีระบุไว้ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมและพันธสัญญาใหม่ ซึ่งเป็นการเปิดเผยสำแดงที่พระเจ้าทรงบันทึกไว้ผ่านการดลใจในการเขียนต้นฉบับ พระคัมภีร์เป็นอำนาจสูงสุดและสุดท้ายในทุกเรื่องของความเชื่อและการปฏิบัติ4
  • คริสตจักรเป็นพระกายที่รวมกันเป็นหนึ่งของพระคริสต์บนแผ่นดินโลก ซึ่งดำรงอยู่เพื่อการสามัคคีธรรม การเสริมสร้าง และเพื่อการสื่อสารข่าวประเสริฐแก่ชนทุกชาติโดยผ่านทางชีวิตของคริสเตียนและการเป็นพยาน5
  • มนุษย์ถูกสร้างขึ้นตามแบบพระฉายของพระเจ้า แต่เพราะความบาปของอาดัมทำให้มนุษย์ถูกแยกจากพระเจ้า และถูกตัดสินลงโทษในนิรันดร์กาล มีเพียงวิธีเดียวในการแก้ไขโทษของบาป คือ ความรอด โดยความเชื่อส่วนบุคคลและการงานของพระเยซูคริสต์6
  • สิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติอันมีอยู่อย่างจำกัดดำรงอยู่ รวมทั้งทูตสวรรค์ที่ไม่ได้ตกลงมา ทูตสวรรค์ที่ตกลงมาแล้ว และปีศาจ ซาตานนั้นเป็นผู้นำของทูตสวรรค์ที่ตกลงมา เป็นผู้ที่เปิดตัวและประกาศการเป็นศัตรูกับพระเจ้าและมนุษย์ และได้ถูกตัดสินพิพากษาให้ตกลงในบึงไฟแล้ว7
  • จะมีกายที่ฟื้นขึ้นใหม่ของทั้งผู้ที่ได้รับความรอดและผู้ที่ต้องพินาศ ผู้ที่รอดเข้าสู่ชีวิตนิรันดร์ และผู้ที่ต้องพินาศเข้าสู่การสาปแช่งชั่วนิรันดร์8
  1. อิสยาห์ 45:22; สดุดี 90:2; ยอห์น 4:24; 2 โครินธ์ 13:14
  2. มัทธิว 1:18–25; ยอห์น 1:14; โคโลสี 1:13–18; 1 เปโตร 2:24; ลูกา 24; ฮีบรู 4:14; มัทธิว 25:31–46
  3. เอเฟซัส 4:30; 1 โครินธ์ 6:19; 12:4, 7, 12–13; กิจการ 1:5; ทิตัส 3:5
  4. มัทธิว 5:18; 2 ทิโมธี 3:15–17; 2 เปโตร 1:20–21
  5. มัทธิว 28:19–20; กิจการ 1:6–8, 2:41–42; 1 โครินธ์ 12:13
  6. ยอห์น 3:15–18; เอเฟซัส 1:7; โรม 10:9–10
  7. ฮีบรู 1:4–14; ยูดา 6; มัทธิว 25:41; วิวรณ์ 20:10
  8. 1 โครินธ์ 15; ดาเนียล 12:1–2; ยอห์น 5:28–29; 2 เธสะโลนิกา 1:7; มัทธิว 5:1–10
"พระคัมภีร์ คือ พระวจนะของพระเจ้า อันเป็นของขวัญที่ยิ่งใหญ่สำหรับผู้คนในทุกหนแห่ง"

เดเร็ก ปริ้นซ์

Made in Webflow