Logo
Logo
Learn
หนังสือหลักสูตรพระคัมภีร์แหล่งข้อมูล
โครงการประกาศ (พันธกิจนอกสถานที่)เกี่ยวกับ
ประเทศไทย Flag Icon

เมนูู

  • หน้าหลัก
  • Learn +
    • โครงการประกาศ (พันธกิจนอกสถานที่)
    • เกี่ยวกับ +
      • การมีส่วนร่วม +
        • ติดต่อ +

            รับหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (ebook) ฟรี

            เริ่มสะสมหนังสือของเดเร็ก ปรินซ์ของคุณด้วย eBook ฟรีเมื่อคุณสมัครรับจดหมายข่าวของเรา.

            คำสอนพระคัมภีร์ฟรี
            Logo
            Logo
            หน้าหลักLearnโครงการประกาศ (พันธกิจนอกสถานที่)เกี่ยวกับการบริจาค

            ลิขสิทธิ์ © 2025 เดเร็ค พรินซ์ มินิสทรีส์. สงวนลิขสิทธิ์

            ติดต่อความเป็นส่วนตัวลิขสิทธิ์Licensesแผ่นที่เว็บไซต์
            บ้าน
            แหล่งข้อมูล
            คุณเป็นคนฝ่ายวิญญาณ หรือคนฝ่ายจิตใจ?

            คุณเป็นคนฝ่ายวิญญาณ หรือคนฝ่ายจิตใจ?

            Derek Prince

            Teaching Legacy Letter

            33
            แบ่งปัน
            ฟัง
            ไทย

            *Article Language

            ส่งคำให้การ

            เสนอ

            ให้

            *First Published: 2018

            *Last Updated: ธันวาคม 2025

            8 min read

            คุณเคยสงสัยไหมว่าการเป็นคนแห่งจิตวิญญาณกับการเป็นคนแห่งจิตใจนั้นแตกต่างกันอย่างไร? ในจดหมายสอนสั่งฉบับนี้ เดเร็ก พรินซ์ ได้ก⁠ล⁠่⁠า⁠วถึงคำถามที่ว่า: ค⁠ว⁠า⁠มสัมพันธ์ระหว่างจิตวิญญาณและจิตใจของเรานั้นเป็นอย่างไร? การนำเสนอค⁠ว⁠า⁠มจริงอันลึกซึ้งเช่นนี้ของเดเร็กนั้นชัดเจนจนเกือบน่าตกใจ แต่มันเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องเข้าใจ

            This Teaching Letter series, Our Value, Our Worth, aims to be a source of blessing to you as you discover the value God places on each and every one of us. We began this series by going back to the very beginning of man. We saw that creation, as a whole, was spoken into existence by the word of God. The creation of Adam, however, was uniquely different.

            And the Lord God formed [molded] man of the dust of the ground, and breathed into his nostrils the breath of life; and man became a living being [literally, a living soul]. (Genesis 2:7)

            เรายังได้เห็นอีกด้วยว่า พ⁠ร⁠ะ⁠ค⁠ั⁠ม⁠ภ⁠ี⁠ร⁠์เปิดเผยถึงสามส่วนที่ประกอบกันเป็นบุคลิกภาพของมนุษย์คือ วิญญาณ จิตใจ และร่างกาย ในจดหมายฉบับนี้ ขณะที่เราพิจารณาว่าพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าทรงตั้งพระทัยให้แต่ละส่วนของบุคลิกภาพของเราทำงานอย่างไรนั้น เราจะมุ่งเน้นไปที่ประเด็นหนึ่งโดยเฉพาะ นั่นคือ ค⁠ว⁠า⁠มสัมพันธ์ระหว่างวิญญาณและจิตใจของเรา

            แบบแผนดั้งเดิม

            ในแบบแผนดั้งเดิมของการทรงสร้างนั้น วิญญาณของมนุษย์มาจากพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าโดยตรง สัมพันธ์กับพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าโดยตรง และดำรงอยู่ในค⁠ว⁠า⁠มสัมพันธ์ที่สมบูรณ์แบบและเป็นระเบียบกับพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠า ก⁠ล⁠่⁠า⁠วคือ พ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าทรงมีอิทธิพลเหนือวิญญาณของมนุษย์ วิญญาณของมนุษย์มีอิทธิพลเหนือจิตใจ และจิตใจก็ควบคุมร่างกาย อย่างไรก็ตาม ผลกระทบอันร้ายแรงจากการกบฏของมนุษย์ทำให้วิญญาณของเขาถูกทำลาย และจิตใจก็เข้าควบคุมแทน ผลก็คือ มนุษย์ที่ยังไม่ได้บังเกิดใหม่ถูกควบคุมโดยหน้าที่สามประการของจิตใจ นั่นคือ เจตจำนง สติปัญญา และอารมณ์

            เมื่อพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าทรงให้บุคคลหนึ่งคืนดีกับพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์นั้น พ⁠ร⁠ะ⁠ป⁠ร⁠ะ⁠ส⁠ง⁠ค⁠์ของพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ก็เพื่อฟื้นฟูระเบียบดั้งเดิมกลับคืนมา คือการที่พ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ทรงสัมพันธ์กับวิญญาณของบุคคลนั้นโดยตรงอีกครั้งหนึ่ง และวิญญาณของเขาก็มีอิทธิพลเหนือจิตใจ และจิตใจก็มีอิทธิพลเหนือร่างกายตามลำดับ

            สิ่งนี้อธิบายถึงถ้อยคำของด⁠า⁠ว⁠ิ⁠ดใน สดุดี 103:1 (ฉบับมาตรฐาน)

            “จิตใจของข้าเอ๋ย จงถวายสาธุการแด่พ⁠ร⁠ะ⁠ย⁠า⁠ห⁠์⁠เ⁠ว⁠ห⁠์”

            โดยทางค⁠ว⁠า⁠มเชื่อ วิญญาณของด⁠า⁠ว⁠ิ⁠ดได้กลับคืนดีกับพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠า และกระตือรือร้นที่จะนมัสการพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ ดังนั้นวิญญาณของท่านจึงกระตุ้นจิตใจของท่านให้ขับเคลื่อนอวัยวะที่ใช้ในการออกเสียง เพื่อเปล่งถ้อยคำแห่งการนมัสการที่เหมาะสม นี่เป็นตัวอย่างที่ดีของแบบแผนดั้งเดิมแห่งการทรงสร้างที่ทำงานในชีวิตของด⁠า⁠ว⁠ิ⁠ด

            ค⁠ว⁠า⁠มสอดคล้อง กับ ค⁠ว⁠า⁠มตึงเครียด

            ตราบใดที่แบบแผนนี้ยังคงดำรงอยู่ คือวิญญาณของเรายังคงยอมจำนนต่อพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠า และจิตใจของเรายังคงยอมจำนนต่อวิญญาณของเรา เราก็จะดำเนินชีวิตในค⁠ว⁠า⁠มสอดคล้องกับพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าและกับตัวเราเอง แต่หากเมื่อใดที่เรายืนกรานในการกบฏต่อพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠า จิตใจของเราก็จะไม่ยอมจำนนต่อวิญญาณอีกต่อไป ผลที่ตามมาคือ ค⁠ว⁠า⁠มสอดคล้องภายในของเราก็สิ้นสุดลงหรือถูกทำลายลง แล้วเราทุกคนก็เผชิญกับค⁠ว⁠า⁠มตึงเครียดอย่างต่อเนื่องระหว่างวิญญาณและจิตใจ

            ภาษากรีกในพ⁠ร⁠ะ⁠ค⁠ั⁠ม⁠ภ⁠ี⁠ร⁠์ภาคพันธสัญญาใหม่มีคำคุณศัพท์พิเศษคำหนึ่งที่สร้างขึ้นโดยตรงจากคำภาษากรีกที่แปลว่าจิตใจ คือคำว่า psuche ซึ่งใช้อธิบายก⁠า⁠ร⁠ก⁠ร⁠ะ⁠ท⁠ำที่เริ่มต้นจากจิตใจ คำคุณศัพท์นี้คือ psuchikos การแปลที่สมเหตุสมผลในภาษาอังกฤษควรจะเป็นคำว่า ฝ่ายจิตใจ “soulish” แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ไม่มีคำดังก⁠ล⁠่⁠า⁠วอยู่ในภาษาอังกฤษอย่างเป็นทางการ

            ดังนั้น การแปลพ⁠ร⁠ะ⁠ค⁠ั⁠ม⁠ภ⁠ี⁠ร⁠์ภาคพันธสัญญาใหม่เป็นภาษาอังกฤษจึงใช้คำและวลีที่หลากหลาย เช่น ตามธรรมชาติหรือตามธรรมดา, ตามโลกียวิสัยหรือตามเนื้อหนัง,ทางโลก, ไม่ใช่ฝ่ายวิญญาณ, จิตใจที่คิดแบบโลก, ปราศจากวิญญาณ และการทำตามสัญชาตญาณตามธรรมชาติ เป็นต้น ซึ่งผู้ที่อ่านภาษาอังกฤษส่วนใหญ่ไม่ทราบว่าคำและวลีทั้งเจ็ดนี้ล้วนแปลมาจากคำภาษากรีกคำเดียวกัน

            เพื่อค⁠ว⁠า⁠มชัดเจน ในส่วนที่เหลือของจดหมายฉบับนี้ ผมจะใช้คำว่า “ฝ่ายจิตใจ”

            สิ่งนี้จะเน้นย้ำถึงค⁠ว⁠า⁠มตึงเครียดในพ⁠ร⁠ะ⁠ค⁠ั⁠ม⁠ภ⁠ี⁠ร⁠์ภาคพันธสัญญาใหม่ ระหว่างสิ่งที่เป็นฝ่ายวิญญาณและสิ่งที่เป็นฝ่ายจิตใจ

            กายฝ่ายวิญญาณ

            ใน 1 โครินธ์ 15:44-46 (ฉบับคิงเจมส์) เปาโลใช้คำนี้สามครั้งเพื่อชี้ให้เห็นถึงค⁠ว⁠า⁠มแตกต่างระหว่างกายปัจจุบันของเราซึ่งเป็นกายธรรมดา (หรือกายฝ่ายจิตใจ) และกายแห่งการฟื้นคืนชีพของเราซึ่งจะเป็นกายฝ่ายวิญญาณ กายฝ่ายจิตใจคือ กายที่วิญญาณต้องขับเคลื่อนผ่านจิตใจ ส่วนกายฝ่ายวิญญาณเป็นกายที่วิญญาณมีอิทธิพลเหนือกายโดยตรง ไม่ต้องทำงานผ่านจิตใจ

            ตัวอย่างเช่น เครูบที่บรรยายไว้ในเอเสเคียลบทที่ 1 ซึ่งดูเหมือนว่าจะมีกายฝ่ายวิญญาณ

            “สิ่งที่มีชีวิตอยู่ทุกตัวบินตรงไปข้างหน้า ไม่ว่าวิญญาณจะไปทางไหน มันก็ไปทางนั้น…” (ข้อ 12 ฉบับคิงเจมส์)

            และอีกครั้งหนึ่ง ในข้อถัดลงมาของบทเดียวกันนี้คือ:

            “วิญญาณจะไปที่ไหน สิ่งที่มีชีวิตอยู่นั้นก็ไป คือวิญญาณของมันไปที่นั่น …” (ข้อ 20 ฉบับคิงเจมส์)

            ดูเหมือนว่านั่นจะเป็นแบบอย่างของกายที่ผู้เชื่อจะมีหลังการฟื้นคืนชีพ วิญญาณของเราจะไม่ต้องกระตุ้นจิตใจของเราให้สั่งกายให้ตอบสนองอย่างเหมาะสมอีกต่อไป กายของเราจะตอบสนองโดยตรงต่อการตัดสินใจของวิญญาณ เราจะเป็นเหมือนเครูบของเอเสเคียล เราจะตรงไปโดยไม่หันเห ไม่ว่าวิญญาณของเราปรารถนาจะไปที่ใด ช่างเป็นอิสรภาพอันรุ่งโรจน์อะไรเช่นนี้!

            กายฝ่ายจิตใจ

            ในพ⁠ร⁠ะ⁠ค⁠ั⁠ม⁠ภ⁠ี⁠ร⁠์ภาคพันธสัญญาใหม่ยังมีข้อค⁠ว⁠า⁠มอีกสามตอนที่แสดงให้เห็นถึงค⁠ว⁠า⁠มขัดแย้งระหว่างฝ่ายวิญญาณกับฝ่ายจิตใจได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น ใน 1 โครินธ์ 2:14-15 (ฉบับคิงเจมส์) เปาโลก⁠ล⁠่⁠า⁠วว่า:

            “แต่มนุษย์ธรรมดา (หรือมนุษย์ฝ่ายจิตใจ) จะรับสิ่งเหล่านั้นซึ่งเป็นของพระวิญญาณแห่งพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าไม่ได้ เพราะเขาเห็นว่าเป็นสิ่งโง่เขลา และเขาไม่สามารถเข้าใจได้ เพราะว่าจะเข้าใจสิ่งเหล่านั้นได้ก็ต้องสังเกตด้วยจิตวิญญาณ แต่มนุษย์ฝ่ายจิตวิญญาณสังเกตสิ่งสารพัดได้ แต่ไม่มีผู้ใดจะรู้จักใจคนนั้นได้”

            การที่จะเข้าใจเรื่องฝ่ายวิญญาณนั้น จิตใจจำเป็นต้องพ⁠ึ⁠่⁠ง⁠พ⁠าวิญญาณ หากจิตใจไม่สอดคล้องกับวิญญาณแล้ว มิติค⁠ว⁠า⁠มจริงฝ่ายวิญญาณก็จะถูกปิดกั้นจากจิตใจ คุณเห็นหรือไม่ว่าการเข้าถึงค⁠ว⁠า⁠มจริงด้วยท่าทีที่ถูกต้องนั้นสำคัญเพียงใด? สิ่งสำคัญอย่างยิ่งคือ จิตใจของเราต้องยอมจำนนต่อวิญญาณของเรา และวิญญาณของเราต้องเป็นหนึ่งเดียวกับพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠า

            เกิดอะไรขึ้นเมื่อคริสเตียนกลายเป็นคนฝ่ายจิตใจ? ในจดหมายฝากของยูดา ท่านได้ก⁠ล⁠่⁠า⁠วถึงคนในค⁠ร⁠ิ⁠ส⁠ต⁠จ⁠ั⁠ก⁠รที่ “เป็นพวกช่างบ่น, ช่างติ, ดำเนินตามค⁠ว⁠า⁠มปรารถนาชั่วของตนเอง,... คนที่หมกมุ่นอยุ่ในโลกียวิสัย (หรือคนฝ่ายจิตใจ), คนที่ก่อให้เกิดการแตกแยก และปราศจากพระวิญญาณ (บริสุทธิ์)” (ยูดา 16, 19 ฉบับมาตรฐาน)

            เมื่อจิตใจของคริสเตียนไม่ยอมจำนนต่อพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าผ่านทางวิญญาณของเขา เขาก็กลายเป็นช่องทางที่ค⁠ว⁠า⁠มปรารถนาของเนื้อหนังและการแตกแยกทุกรูปแบบสามารถแทรกซึมเข้ามาในค⁠ร⁠ิ⁠ส⁠ต⁠จ⁠ั⁠ก⁠รได้ นี่คือสาเหตุที่แท้จริงเบื้องหลังของการแตกแยกในพ⁠ร⁠ะ⁠ก⁠า⁠ยของพ⁠ร⁠ะ⁠ค⁠ร⁠ิ⁠ส⁠ต⁠์

            การตกต่ำลง

            แต่มันไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น ใน ยากอบ 3:15 (ฉบับมาตรฐาน) อัครทูตก⁠ล⁠่⁠า⁠วถึงรูปแบบของปัญญาที่ไม่ได้มาจากเบื้องบน แต่เป็นของโลก, เป็นไปตามโลกียวิสัย (หรือฝ่ายจิตใจ หรือฝ่ายเนื้อหนัง) และเป็นของปีศาจ ยากอบบรรยายถึงการตกต่ำลงเป็นสามขั้นตอนต่อเนื่องกัน คือ จากการเป็นฝ่ายโลก, ไปสู่การเป็นฝ่ายเนื้อหนัง (หรือฝ่ายจิตใจ) และไปสู่การเป็นฝ่ายปีศาจ

            เมื่อคริสเตียนกลายเป็นคนฝ่ายโลก พวกเขาจะสูญเสียวิสัยทัศน์แห่งนิรันดร์คือ พวกเขาไม่สามารถมองเห็นสิ่งใดที่ไกลเกินไปกว่าเรื่องของชีวิตนี้ได้ เช่น ค⁠ว⁠า⁠มสำเร็จ ค⁠ว⁠า⁠มสุขสำราญ สุขภาพ และค⁠ว⁠า⁠มมั่งคั่ง พวกเขาสนใจเพียงแค่ว่า ค⁠ว⁠า⁠มเชื่อข⁠อ⁠ง⁠พ⁠ว⁠ก⁠เ⁠ข⁠าจะทำอะไรเพื่อพวกเขาในชีวิตนี้เท่านั้น!

            เปาโลก⁠ล⁠่⁠า⁠วถึงคนเช่นนั้นว่า “ถ้าเราหวังในพ⁠ร⁠ะ⁠ค⁠ร⁠ิ⁠ส⁠ต⁠์เพียงแค่ในชีวิตนี้ เราก็เป็นคนน่าเวทนาที่สุดของคนทั้งหมด” (1 โครินธ์ 15:19 ฉบับมาตรฐาน) คริสเตียนแบบนั้นมักจะคิดว่าตนเองเจริญรุ่งเรืองและประสบค⁠ว⁠า⁠มสำเร็จ แต่พ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าทรงคิดอย่างไร? พ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ทรงถือว่าพวกเขาน่าเวทนา

            หลังจากขั้นตอนของการเป็นคนฝ่ายโลกแล้ว ขั้นตอนต่อไปของการตกต่ำลงคือ การเป็นคนฝ่ายจิตใจ (หรือฝ่ายเนื้อหนัง หรือฝ่ายโลกียวิสัย) การเป็นคนฝ่ายจิตใจคือ การเป็นคนเห็นแก่ตัวและเอาตนเองเป็นศูนย์กลาง สำหรับคนเช่นนี้ ค⁠ว⁠า⁠มเชื่อคริสเตียนเป็นเพียงหนทางที่จะได้สิ่งที่พวกเขาต้องการจากชีวิต พวกเขาคิดเอาเองว่า "ทางของพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠านั้นเป็นช่องทางแสวงหาผลประโยชน์" (1 ทิโมธี 6:5 ฉบับมาตรฐาน)

            ขั้นตอนของการเป็นคนฝ่ายจิตใจนั้นเปิดทางให้กับวิญญาณชั่ว นี่เป็นวิธีสำคัญวิธีหนึ่งที่วิญญาณชั่วแทรกซึมเข้ามาในค⁠ร⁠ิ⁠ส⁠ต⁠จ⁠ั⁠ก⁠ร คำถามที่มักถูกถามคือ คริสเตียนจำเป็นต้องได้รับการปลดปล่อยจากวิญญาณชั่วหรือไม่? ถ้อยคำของยากอบให้ค⁠ำ⁠ต⁠อ⁠บที่ชัดเจนคือ การดำเนินชีวิตที่ตกต่ำลงจากฝ่ายโลก ไปสู่ฝ่ายจิตใจ (หรือฝ่ายเนื้อหนัง) และไปสู่ฝ่ายปีศาจนั้น ทำให้ทั้งผู้เชื่อแต่ละคนและค⁠ร⁠ิ⁠ส⁠ต⁠จ⁠ั⁠ก⁠รทั้งหมดต้องเผชิญกับการทำงานของวิญญาณชั่ว

            การฝึกฝนการวินิจฉัย

            ในปัจจุบันนี้ ค⁠ร⁠ิ⁠ส⁠ต⁠จ⁠ั⁠ก⁠รหลายแห่งเป็นการผสมผสานของสิ่งที่ไม่ใช่ของพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠า โดยไม่มีเส้นแบ่งที่ชัดเจนระหว่างฝ่ายวิญญาณกับฝ่ายจิตใจ จึงไม่มีสิ่งใดขวางกั้นอิทธิพลของวิญญาณชั่ว ทำให้การสำแดงที่แท้จริงของพ⁠ร⁠ะ⁠ว⁠ิ⁠ญ⁠ญ⁠า⁠ณ⁠บ⁠ร⁠ิ⁠ส⁠ุ⁠ท⁠ธ⁠ิ⁠์ถูกปะปนอยู่กับการสำแดงที่เห็นได้ชัดเจนว่าเป็นของวิญญาณชั่ว ผลที่ตามมาก็คือ ผู้เชื่อที่จริงใจจำนวนมากสับสนและงุนงง

            เพื่อปกป้องตัวเราเอง เราต้องฝึกฝนการวินิจฉัย (หรือการสังเกต หรือการแยกแยะ) ตามพ⁠ร⁠ะ⁠ค⁠ั⁠ม⁠ภ⁠ี⁠ร⁠์ เราต้องเรียนรู้ที่จะแยกแยะระหว่างสิ่งที่เป็นฝ่ายวิญญาณอย่างแท้จริงกับสิ่งที่เป็นฝ่ายจิตใจ มีเพียงเครื่องมือเดียวที่คมพอที่จะทำเช่นนี้ได้ นั่นคือ พ⁠ร⁠ะ⁠ว⁠จ⁠น⁠ะของพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠า

            “เพราะพ⁠ร⁠ะ⁠ว⁠จ⁠น⁠ะของพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠านั้นมีชีวิตและทรงพลานุภาพอยู่เสมอ และคมยิ่งกว่าดาบสองคมใดๆ แทงทะลุแยกจิตและวิญญาณ ทั้งข้อกระดูกและไขในกระดูก และสามารถวินิจฉัยค⁠ว⁠า⁠มคิดและค⁠ว⁠า⁠มมุ่งหมายในใจด้วย” (ฮีบรู 4:12 ฉบับมาตรฐาน)

            เงื่อนไขสองประการ

            ใน ฮีบรู 5:14 (ฉบับมาตรฐาน) ผู้เขียนก⁠ล⁠่⁠า⁠วต่อไปถึงเงื่อนไขสองประการที่เราต้องทำให้สำเร็จเพื่อที่จะสามารถใช้การวินิจฉัยเช่นนี้ได้คือ:

            “อาหารแข็งนั้นสำหรับผู้ใหญ่ สำหรับคนที่ฝึกฝนจนมีค⁠ว⁠า⁠มสามารถแยกแยะค⁠ว⁠า⁠มดีชั่วได้แล้ว”

            เงื่อนไขประการแรกคือ เราต้องรับประทานอาหารแข็งฝ่ายวิญญาณอย่างสม่ำเสมอ โดยการศึกษาพ⁠ร⁠ะ⁠ค⁠ั⁠ม⁠ภ⁠ี⁠ร⁠์ตลอดทั้งเล่ม เงื่อนไขประการที่สองคือ เราต้องฝึกฝนการวินิจฉัยอย่างสม่ำเสมอ เราต้องตื่นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยตระหนักถึงพลังอำนาจฝ่ายวิญญาณที่เราเผชิญในทุกสถานการณ์ การวินิจฉัยควรเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคริสเตียนของเราเช่นเดียวกับการอธิษฐาน

            สุดท้ายนี้ ให้เราเชื่อฟังคำเตือนสติของเปาโลใน 1 โครินธ์ 16:13-14 (ฉบับมาตรฐาน):

            “จงระมัดระวัง จงมั่นคงในค⁠ว⁠า⁠มเชื่อ จงเป็นคนกล้าหาญ จงเข้มแข็ง จงทำทุกสิ่งด้วยค⁠ว⁠า⁠มรัก”

            แล้วคุณล่ะ?

            ขณะที่คุณอ่านถ้อยคำเหล่านี้ คุณตระหนักหรือไม่ว่าวิญญาณของคุณจำเป้นต้องได้รับการเสริมกำลังเพื่อที่จะควบคุมจิตใจของคุณ? คุณปรารถนาที่จะเป็นเหมือนกษัตริย์ด⁠า⁠ว⁠ิ⁠ดหรือไม่ ผู้ซึ่งกระตุ้นจิตใจของท่านเองให้สรรเสริญพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าเป็นประจำ? หากคุณมีค⁠ว⁠า⁠มปรารถนาเช่นเดียวกันนั้น ขอให้เรามาอธิษฐานในเรื่องนี้ด้วยกันในเวลานี้

            *Prayer Response

            ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ปรารถนาจะเป็นคนที่ดีที่สุดตามที่พ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ทรงตั้งพระทัยไว้เมื่อพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ทรงสร้างข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ บัดนี้ข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ขออุทิศตัวแด่พ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ เพื่อข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์จะระมัดระวังชีวิตค⁠ว⁠า⁠มคิด (หมายถึง กระบวนการทางค⁠ว⁠า⁠มคิดที่มีอิทธิพลอย่างลึกซึ้งต่อจิตใจ - ผู้แปล) และการอธิษฐานให้มากยิ่งขึ้น ข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ปรารถนาจะได้ยินและเชื่อฟังพ⁠ร⁠ะ⁠ส⁠ุ⁠ร⁠เ⁠ส⁠ี⁠ย⁠งของพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์

            ข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ทูลขอพระคุณของพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ด้วยค⁠ว⁠า⁠มถ่อมใจ โปรดจัดเรียงวิญญาณ จิตใจ และร่างกายของข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ให้สอดคล้องกับการออกแบบของพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ ข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ปรารถนาจะเป็นคนฝ่ายวิญญาณ มากกว่าที่จะเป็นคนฝ่ายจิตใจ เพราะข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์รักพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ และติดตามพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ ในพระนามพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠ย⁠ซ⁠ู เอเมน

            ฉันได้อธิษฐานแล้ว
            33
            แบ่งปัน
            Expand Content

            What People Say

            See how คุณเป็นคนฝ่ายวิญญาณ หรือคนฝ่ายจิตใจ? has impacted lives across the globe.

            "I've applied the Biblical principles on family relationships from this teaching, and it has completely restored harmony in our home. My teenagers and I now have meaningful conversations about faith, and my marriage has been strengthened in ways I never thought possible."
            Elena R., Brazil
            "The teachings on spiritual warfare completely transformed my approach to daily challenges. I used to feel overwhelmed by life's obstacles, but now I understand how to stand firm in faith. This teaching gave me practical tools I use every single day."
            Sarah K., California
            "After 20 years of struggling with unforgiveness, the Biblical principles shared in this teaching helped me release the bitterness I had been carrying. The step-by-step approach to forgiveness wasn't just theory—it actually worked in my life when nothing else had."
            Michael T., United Kingdom
            "As a new Christian, I was confused about many aspects of faith. These teachings provided clear, Scripture-based explanations that helped build my foundation. I'm especially grateful for how the content made complex concepts accessible without watering down the truth."
            Priya M., India
            "The teaching on God's sovereignty during difficult times came to me exactly when I needed it most. After losing my job and facing health challenges, this message reminded me that God remains in control. It gave me hope when I had none left."
            James L., Australia
            "I've applied the Biblical principles on family relationships from this teaching, and it has completely restored harmony in our home. My teenagers and I now have meaningful conversations about faith, and my marriage has been strengthened in ways I never thought possible."
            Elena R., Brazil
            "The teachings on spiritual warfare completely transformed my approach to daily challenges. I used to feel overwhelmed by life's obstacles, but now I understand how to stand firm in faith. This teaching gave me practical tools I use every single day."
            Sarah K., California
            Ad Image

            *Free download

            *This Teaching Letter is available to download, print and share for personal or church use.

            ดาวน์โหลด PDF

            รหัส: TL-L122-100-THA

            ของขวัญ
            ให้
            ส่งคำติชม