Logo
Logo
Learn
หนังสือหลักสูตรพระคัมภีร์แหล่งข้อมูล
โครงการประกาศ (พันธกิจนอกสถานที่)เกี่ยวกับ
ประเทศไทย Flag Icon

เมนูู

  • หน้าหลัก
  • Learn +
    • โครงการประกาศ (พันธกิจนอกสถานที่)
    • เกี่ยวกับ +
      • การมีส่วนร่วม +
        • ติดต่อ +

            รับหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (ebook) ฟรี

            เริ่มสะสมหนังสือของเดเร็ก ปรินซ์ของคุณด้วย eBook ฟรีเมื่อคุณสมัครรับจดหมายข่าวของเรา.

            คำสอนพระคัมภีร์ฟรี
            Logo
            Logo
            หน้าหลักLearnโครงการประกาศ (พันธกิจนอกสถานที่)เกี่ยวกับการบริจาค

            ลิขสิทธิ์ © 2025 เดเร็ค พรินซ์ มินิสทรีส์. สงวนลิขสิทธิ์

            ติดต่อความเป็นส่วนตัวลิขสิทธิ์Licensesแผ่นที่เว็บไซต์
            บ้าน
            แหล่งข้อมูล
            ทางออกของการถูกปฏิเสธ

            ทางออกของการถูกปฏิเสธ

            Derek Prince

            Teaching Legacy Letter

            48
            แบ่งปัน
            ฟัง
            ไทย

            *Article Language

            ส่งคำให้การ

            เสนอ

            ให้

            *First Published: 2012

            *Last Updated: ธันวาคม 2025

            12 min read

            เดเร็คอุทิศเวลาและพลังงานให้กับ "กบฏที่ไม่คู่ควร" ในช่วงทศวรรษ 1960 ผู้ซึ่งสร้างค⁠ว⁠า⁠มสั่นสะเทือนในแวดวงศาสนาและการเมือง แทนที่จะปฏิเสธ เดเร็คกลับมอบการยอมรับ ซึ่งพ⁠ร⁠ะ⁠บ⁠ิ⁠ด⁠าบนสวรรค์ของเราก็ทรงเป็นเช่นเดียวกัน บางทีอาจเป็นเพราะวิธีที่เดเร็คดำเนินชีวิตตามสาระแห่งมรดกคำสอนของเดเร็ค พรินซ์นี้เอง ที่ทำให้เกิดพลังอันย⁠ิ⁠่⁠ง⁠ใ⁠ห⁠ญ⁠่เช่นนี้ จากประสบการณ์ของเขาเอง เดเร็คจึงรู้วิธีช่วยให้ผู้คนปฏิเสธการถูกปฏิเสธ และก้าวเข้าสู่การยอมรับผ่านทางพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠ย⁠ซ⁠ูคริสต์ คุณสามารถสัมผัสค⁠ว⁠า⁠มจริงข้อนี้ได้ด้วยการศึกษาคำสอนนี้ และทำตามขั้นตอนที่ระบุไว้ท้ายจดหมาย จากการถูกปฏิเสธสู่การยอมรับ! นี่คือการเดินทางที่คุณไม่ควรพลาด

            ในจดหมายฉบับล่าสุดของผม เราได้พิจารณาคำจำกัดค⁠ว⁠า⁠มของการถูกปฏิเสธ ซึ่งนิยามง่ายๆ ก็คือค⁠ว⁠า⁠มรู้สึกไม่เป็นที่ต้องการ ค⁠ว⁠า⁠มรู้สึกที่ว่าถึงแม้คุณอยากให้คนอื่นรักคุณ แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครรักคุณ หรือค⁠ว⁠า⁠มต้องการเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม แต่รู้สึกถูกกีดกัน ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ แม้แต่ในแวดวงคริสเตียนเองก็เกิดขึ้นได้

            แล้วเราก็พิจารณากันต่อไปว่าพ⁠ร⁠ะ⁠ค⁠ั⁠ม⁠ภ⁠ี⁠ร⁠์ได้ให้ภาพของการถูกปฏิเสธไว้อย่างไร โดยเฉพาะภาพที่น่าสะเทือนใจในพระธรรมอิสยาห์ 54:6 ซึ่งก⁠ล⁠่⁠า⁠วถึงหญิงคนหนึ่งที่แต่งงานแล้ว และมีหัวใจที่แตกสลาย

            เพราะพ⁠ร⁠ะ⁠ย⁠า⁠ห⁠์⁠เ⁠ว⁠ห⁠์ทรงเรียกเจ้าดั่งภรรยาผู้ถูกทอดทิ้งและโทมนัสในวิญญาญจิต คือ ภรรยาที่ยังสาวเมื่อนางถูกทิ้ง" พ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าตรัสดังนี้ (THSV11)

            การถูกปฎิเสธสามารถเกิดขึ้นได้หลากหลายรูปแบบ และบางคนอาจตอบสนองต่อการถูกปฏิเสธแตกต่างกันออกไป

            ตอนนี้ผมอยากคุยกับคุณเกี่ยวกับค⁠ำ⁠ต⁠อ⁠บต่อปัญหาที่เจาะจงของการถูกปฏิเสธ ผมอยากให้คุณดูค⁠ำ⁠ต⁠อ⁠บของพ⁠ร⁠ะ⁠ค⁠ั⁠ม⁠ภ⁠ี⁠ร⁠์ที่มีต่อปัญหานี้ และผมอยากบอกคุณว่า - 'มันได้ผลแน่!' เพราะผมได้เห็นชีวิตมากมายที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงชั่วคราว ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงเพียงผิวเผิน แต่เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง

            ทุกทางออกที่พ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าทรงมีต่อทุกปัญหาในชีวิตของเราล้วนแล้วแต่มาจากไม้กางเขนทั้งสิ้น ไม้กางเขนเป็นที่ที่พ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าทรงจัดเตรียมวิธีการแก้ไขให้กับปัญหาทั้งหมดของเรา และพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠ย⁠ซ⁠ูได้ทรงจัดการกับปัญหาที่เจาะจงอย่างการถูกปฏิเสธแล้วบนไม้กางเขน

            เมื่อหลายปีก่อน (อันที่จริงแล้วในปี ค.ศ. 1943) องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงตรัสกับผมผ่านของประทานแห่งพระวิญญาณว่า ผมจะต้องพิจารณาถึงเรื่องพระราชกิจที่กลโกธา ว่าเป็นพระราชกิจที่สมบูรณ์แบบ สมบูรณ์แบบทุกประการ สมบูรณ์แบบในทุกด้าน ผมใช้เวลาหลายสิบปีในการพิจารณาเรื่องพระราชกิจที่กลโกธา คือสิ่งที่พ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠ย⁠ซ⁠ูทรงกระทำบนไม้กางเขน และทุกครั้งที่ผมคิดว่าผมรู้ทุกอย่างแล้ว ผมก็ค้นพบสิ่งใหม่ๆ

            การแลกเปลี่ยน

            ตลอดหลายปีที่ผ่านมา องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงสำแดงหลักการพื้นฐานประการหนึ่งเกี่ยวกับไม้กางเขนแก่ผม นั่นคือ การแลกเปลี่ยน เป็นการแลกเปลี่ยนที่พ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าทรงกำหนดไว้ที่บนไม้กางเขน เพื่อให้เรื่องของค⁠ว⁠า⁠มยุติธรรมของพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าอันเป็นนิรันดร์ สำเร็จสมค⁠ว⁠า⁠มปรารถนาของพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ที่บนไม้กางเขน ดังนั้นพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าจำต้องบันดาลให้สิ่งชั่วร้ายทั้งปวงที่มนุษยชาติสมควรจะได้รับตามหลักการของค⁠ว⁠า⁠มยุติธรรมมาอยู่บนพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠ย⁠ซ⁠ูแทน เพื่อว่าโดยค⁠ว⁠า⁠มเชื่อ ผู้ที่กลับใจและเชื่อจะได้รับสิ่งดีทั้งสิ้นที่พ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠ย⁠ซ⁠ูสมควรได้รับตามค⁠ว⁠า⁠มยุติธรรมของพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ พ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠ย⁠ซ⁠ูทรงได้รับสิ่งชั่วร้ายเพื่อเราจะได้รับสิ่งดี นี่เป็นเรื่องที่เรียบง่ายมาก และเป็นพื้นฐานมาก แต่เมื่อคุณเริ่มเข้าใจสิ่งนี้แล้ว มันก็จะเปิดหนทางแห่งพระพรอันไม่มีที่สิ้นสุดให้กับจิตวิญญาณของคุณเอง

            พ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าทรงบันดาลให้สิ่งชั่วร้ายทั้งปวงมาอยู่บนพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠ย⁠ซ⁠ู เพื่อเราจะได้รับสิ่งดีทั้งปวง และยิ่งผมคิดใคร่ครวญกับเรื่องนี้นานเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งเห็นว่าการแลกเปลี่ยนนั้นสมบูรณ์แบบมากขึ้นเท่านั้น และนี่เป็นเพียงมุมมองบางส่วนของการแลกเปลี่ยนที่ว่านี้:

            “พ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠ย⁠ซ⁠ูทรงถูกลงโทษเพราะค⁠ว⁠า⁠มบาปของเรา เพื่อที่เราจะได้รับการอภัย พ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠ย⁠ซ⁠ูทรงบาดเจ็บเพราะค⁠ว⁠า⁠มเจ็บป่วยของเรา เพื่อเราจะได้รับการรักษาให้หาย พ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠ย⁠ซ⁠ูทรงเจ็บป่วยเพื่อให้เรามีสุขภาพดี พ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠ย⁠ซ⁠ูทรงยากจนเพราะเห็นแก่เรา เพื่อเราจะได้รับค⁠ว⁠า⁠มมั่งมีของพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ พ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠ย⁠ซ⁠ูทรงสิ้นพระชนม์เพราะค⁠ว⁠า⁠มตายของเรา เพื่อเราจะได้รับชีวิตของพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์”

            ในขณะที่ผมกำลังใคร่ครวญเรื่องนี้ พ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าทรงตรัสกับผมว่า "ยังมีอีกด้านหนึ่งของการแลกเปลี่ยนนั้น แล้วการถูกปฏิเสธล่ะ?" ในอิสยาห์ 53:3 ก⁠ล⁠่⁠า⁠วว่า:

            “ท่านถูกดูหมิ่นและถูกทอดทิ้ง เป็นคนที่รับค⁠ว⁠า⁠มเจ็บปวด และคุ้นเคยกับค⁠ว⁠า⁠มทุกข์ยาก” (THSV11)

            เป็นเวลาสามปีครึ่งที่พ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠ย⁠ซ⁠ูทรงอุทิศพระชนม์ชีพของพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ทั้งสิ้นให้กับก⁠า⁠ร⁠ก⁠ร⁠ะ⁠ท⁠ำค⁠ว⁠า⁠มดี คือ การอภัยบาป การรักษาโรคภัยไข้เจ็บ และการปลดปล่อยผู้ที่ถูกมารกดขี่ พ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ไม่ได้ทรงทำสิ่งใดเลยนอกจากค⁠ว⁠า⁠มดี เมื่อสิ้นสุดช่วงเวลานั้น ผู้ปกครองชาวโรมันได้ให้ช⁠น⁠ช⁠า⁠ต⁠ิของพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ซึ่งเป็นช⁠น⁠ช⁠า⁠ต⁠ิยิวเลือกว่าพวกเขาต้องการผู้ใด ระหว่างพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠ย⁠ซ⁠ูชาวนาซาเร็ธ หรืออาชญากรชื่อบารับบัส ซึ่งมีค⁠ว⁠า⁠มผิดฐานกบฏทางการเมือง การปล้น และการฆาตกรรม ด้วยการตัดสินใจที่น่าเหลือเชื่อและน่าสลดใจที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ คนทั้งชาติที่ถูกยุยงโดยผู้นำศาสนาข⁠อ⁠ง⁠พ⁠ว⁠ก⁠เ⁠ข⁠าได้ปฏิเสธพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠ย⁠ซ⁠ู และได้เลือกบารับบัสซึ่งเป็นผู้กบฏทางการเมืองแทน

            พวกเขาก⁠ล⁠่⁠า⁠วว่า “เอาพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠ย⁠ซ⁠ูไปให้พ้น ตรึงพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ที่ไม้กางเขน! เราไม่ต้องการพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์! เราเลือกบารับบัส ผู้ที่เป็นขโมยและโจร” พ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠ย⁠ซ⁠ูทรงตอบสนองอย่างไร? พ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ทรงอธิษฐานต่อพ⁠ร⁠ะ⁠บ⁠ิ⁠ด⁠าเพื่อทรงให้อภัยผู้ที่ตรึงพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์บนไม้กางเขน พ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์มิได้ทรงกังวลถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ แต่พ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ทรงกังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา ตัวอย่างอันน่าอัศจรรย์ของพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠ย⁠ซ⁠ูคือ แม้พ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ทรงทนทุกข์ทรมานและถูกปฏิเสธ แต่พ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์มิได้ทรงห่วงใยตัวของพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์เอง แต่กลับทรงห่วงใยผู้ที่ปฏิเสธพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ ช่างเป็นแบบอย่างอะไรเช่นนี้!

            เมื่อผมพิเคราะห์เรื่องการแลกเปลี่ยนของพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠ย⁠ซ⁠ูบนไม้กางเขนในแง่ของปัญหาการถูกปฏิเสธ ผมได้ตระหนักถึงบางสิ่งที่น่าตกใจคือ แม้ว่าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ทรงถูกมนุษย์ปฏิเสธก็ตาม แต่ค⁠ว⁠า⁠มทุกข์ทรมานครั้งสุดท้ายของพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠ย⁠ซ⁠ูบนไม้กางเขนคือ การถูกปฏิเสธโดยพ⁠ร⁠ะ⁠บ⁠ิ⁠ด⁠าของพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ เมื่อคุณอ่านเรื่องราวนี้มาจนใกล้ถึงตอนจบของประสบการณ์อันเลวร้ายของพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์นั้น พ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ทรงตรัสว่า:

            “พ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าของข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ พ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าของข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ ทำไมพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ทรงทอดทิ้งข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์​เสีย” (มัทธิว 27:46 - THSV11)

            และไม่มีค⁠ำ⁠ต⁠อ⁠บจากสวรรค์ นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของจักรวาลที่พ⁠ร⁠ะ⁠บ⁠ิ⁠ด⁠าทรงปิดพระกรรณ์ต่อเสียงร้องของพ⁠ร⁠ะ⁠บ⁠ุ⁠ต⁠ร แล้วพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠ย⁠ซ⁠ูก็ได้ทรงตระหนักว่าพ⁠ร⁠ะ⁠บ⁠ิ⁠ด⁠าได้ทรงปฏิเสธพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ เหตุใดพ⁠ร⁠ะ⁠บ⁠ิ⁠ด⁠าจึงทรงปฏิเสธพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠ย⁠ซ⁠ู? พ⁠ร⁠ะ⁠ค⁠ั⁠ม⁠ภ⁠ี⁠ร⁠์ก⁠ล⁠่⁠า⁠วว่า พ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠านั้นทรง:

            “...​พระเนตรของพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์บริสุทธิ์​เกินที่จะทอดพระเนตรการชั่ว [หรือค⁠ว⁠า⁠มอยุติธรรม]” (ฮาบากุก 1:13 - THSV11)

            เมื่อพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠ย⁠ซ⁠ูทรงถูกทำให้บาปด้วยค⁠ว⁠า⁠มบาปของเรา พ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าทรงเบนสายพระเนตรและทรงปิดพระกรรณของพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ต่อเสียงร้องของพ⁠ร⁠ะ⁠บ⁠ุ⁠ต⁠รของพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์

            หลังจากนั้น มีเสียงร้องอีกเพียงครั้งเดียวที่ดังออกมาจากพระโอษฐ์ของพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠ย⁠ซ⁠ู แล้วพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ก็สิ้นพระชนม์ ผมเชื่อว่ามันถูกต้องจริงๆ ว่า พ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ทรงสิ้นพระชนม์ก็เพราะพระทัยที่แตกสลาย สิ่งที่ทำให้พระทัยของพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์แตกสลายนั้น ไม่ใช่การถูกปฏิเสธโดยคนของพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์เอง แต่เป็นการถูกปฏิเสธโดยพ⁠ร⁠ะ⁠บ⁠ิ⁠ด⁠า

            สำหรับทุกคนที่อ่านบทค⁠ว⁠า⁠มนี้ซึ่งเป็นผู้ที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากการถูกปฏิเสธ ผมอยากบอกคุณตอนนี้ว่า พ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠ย⁠ซ⁠ูทรงประสบกับค⁠ว⁠า⁠มเจ็บปวดที่ลึกที่สุดของการถูกปฏิเสธ แม้กระทั่งการถูกพ⁠ร⁠ะ⁠บ⁠ิ⁠ด⁠าของพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ปฏิเสธ และพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ทรงแบกรับมันไว้เพื่อคุณ เพื่อให้คุณได้รับการช่วยกู้ หากจะมีข่าวดีอะไรสำหรับคนในรุ่นนี้ ก็คงจะเป็นเรื่องนี้นี่เอง

            การเป็นที่ยอมรับ

            สิ่งที่ตรงกันข้ามกับการถูกปฏิเสธคืออะไร? ก็คือ การได้รับการยอมรับนั่นเอง ผมชอบพระธรรมเอเฟซัส 1:6 (ฉบับคิงเจมส์ใหม่ - ภาษาอังกฤษ) เพราะพ⁠ร⁠ะ⁠ค⁠ั⁠ม⁠ภ⁠ี⁠ร⁠์ฉบับนี้ก⁠ล⁠่⁠า⁠วว่า พ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าได้ทรง "ทำให้เราเป็นที่ยอมรับในผู้ทรงเป็นที่รักของพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์" พ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠ย⁠ซ⁠ู ผู้ทรงเป็นพ⁠ร⁠ะ⁠บ⁠ุ⁠ต⁠รที่แท้จริง และพ⁠ร⁠ะ⁠บ⁠ุ⁠ต⁠รองค์เดียวของพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าได้ทรงถูกปฏิเสธ เพื่อเราผู้ที่ไม่คู่ควรเพราะการเป็นกบฎของเรานั้น จะได้รับการยอมรับจากพ⁠ร⁠ะ⁠บ⁠ิ⁠ด⁠า ดังนั้น วิธีแก้ไขที่ลึกที่สุดสำหรับปัญหาของเราคือ การเชื่อว่าพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠ย⁠ซ⁠ูได้ทรงแบกรับการถูกปฏิเสธของเรา เพื่อเราจะได้รับการยอมรับของพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์จากพ⁠ร⁠ะ⁠บ⁠ิ⁠ด⁠า

            บางครั้งอาจมีปัญหาที่เกิดขึ้นกับพ่อแม่ทางโลกที่ไม่สามารถแก้ไขได้ แต่พี่น้องครับ แม้ว่าจะไม่มีใครต้องการคุณ ไม่มีใครรักคุณ พ่อแม่ของคุณอาจจะยังไม่ได้แต่งงานกันด้วยซ้ำไป ก็ไม่เป็นไร แต่เมื่อคุณมาหาพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าผ่านทางพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠ย⁠ซ⁠ูคริสต์ คุณจะกลายเป็นสมาชิกของครอบครัวที่ดีที่สุดในจักรวาล และพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าไม่มีลูกที่เป็นชนชั้นสอง

            ครอบครัวของพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าเป็นครอบครัวที่ดีที่สุด ไม่มีครอบครัวใดที่เทียบเท่าได้กับครอบครัวของพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠า แม้ว่าครอบครัวของคุณจะไม่ได้สนใจคุณ หรือพ่อของคุณปฏิเสธคุณ หรือแม่ของคุณไม่เคยมีเวลาให้คุณ หรือสามีของคุณไม่เคยแสดงค⁠ว⁠า⁠มรักต่อคุณก็ตาม แต่พ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠ายังคงต้องการคุณ คุณได้รับการยอมรับแล้ว คุณเป็นจุดมุ่งหมายของการเอาใจใส่และค⁠ว⁠า⁠มรักที่พิเศษของพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ คุณเป็นจุดศูนย์กลางของทุกสิ่งที่พ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ทรงกระทำในจักรวาลนี้

            เมื่อพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าทรงตรัสว่าเราเป็นที่ยอมรับนั้น พ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ไม่ได้หมายค⁠ว⁠า⁠มว่าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์เพียงแค่ยอมอดทนกับเราเท่านั้น ฉะนั้นอย่าสร้างค⁠ว⁠า⁠มรำคาญให้กับพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ อย่าทำให้พ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์เสียพระทัย หรืออย่ารบกวนพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ แท้จริงแล้ว เราไม่เคยใช้เวลาของพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์มากเกินไปเลย แต่สิ่งเดียวที่ทำให้พ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์เสียพระทัยก็คือ ตอนที่เราอยู่ห่างจากพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์นานเกินไปต่างหาก

            พ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠ามิได้ทรงผลักเราเข้ามุมแล้วตรัสว่า “รอก่อน เรากำลังยุ่งเหลือเกิน เราไม่มีเวลาสำหรับเจ้า” ในทางตรงกันข้าม พ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ทรงตรัสว่า “เราสนใจในตัวเจ้า เราต้องการเจ้า เรายินดีต้อนรับเจ้าที่นี่ เข้ามาเถิด เราเฝ้ารอเจ้ามานานแล้ว”

            เช่นเดียวกับพ่อในเรื่องราวของบุตรน้อยหลงหาย (ดูลูกา 15:11–32) พ่อนั้นออกไปเฝ้ามองหาลูกชายที่จะกลับมาบ้าน ไม่จำเป็นต้องมีใครมาบอกพ่อคนนั้นว่า “ลูกของท่านกลับมาบ้านแล้ว” เพราะคนแรกที่รู้ก็คือพ่อนั่นเอง เขารู้เรื่องนี้ก่อนที่ทุกคนในครอบครัวจะรู้เสียอีก

            ทัศนคติของพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าที่ทรงมีต่อเราในพ⁠ร⁠ะ⁠ค⁠ร⁠ิ⁠ส⁠ต⁠์ก็เป็นเช่นนั้น เราไม่ได้ถูกปฏิเสธ เราไม่ใช่พลเมืองชั้นสอง เราไม่ใช่แค่คนรับใช้ เมื่อบุตรน้อยหลงหายกลับมา เขาเต็มใจที่จะเป็นแค่คนรับใช้ แต่พ่อกลับไม่ยอม ตรงกันข้ามพ่อกลับพูดว่า “จงเอาเสื้อคลุมที่ดีที่สุดออกมา ใส่รองเท้าบนเท้าของเขา สวมแหวนบนนิ้วของเขา จงฆ่าลูกวัวตัวอ้วนพีเถิด! ลูกชายของฉันคนนี้หายไปแล้วแต่ได้พบกันอีก ตายแล้วแต่กลับเป็นขึ้นมาอีก” ทั้งครัวเรือนต่างยุ่งอยู่กับการเตรียมต้อนรับเขากลับบ้าน

            ในทำนองเดียวกัน พ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠ย⁠ซ⁠ูตรัสว่า:

            “เราบอกท่านทั้งหลายว่า ในทำนองเดียวกัน จะมีค⁠ว⁠า⁠มชื่นชมยินดีในสวรรค์เรื่องคนบาปคนเดียวที่กลับใจใหม่ มากกว่าเรื่องคนชอบธรรมเก้าสิบเก้าคนที่ไม่ยอมกลับใจ” (ลูกา 15:7 - THSV11)

            นั่นคือวิธีที่พ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าทรงต้อนรับเราในพ⁠ร⁠ะ⁠ค⁠ร⁠ิ⁠ส⁠ต⁠์

            เราต้องเข้าใจข้อเท็จจริงพื้นฐานสองประการนี้คือ:

            1. พ⁠ร⁠ะ⁠ค⁠ร⁠ิ⁠ส⁠ต⁠์ได้ทรงแบกรับการถูกปฏิเสธของเราไว้บนไม้กางเขน คือ ค⁠ว⁠า⁠มทุกข์ทรมานและค⁠ว⁠า⁠มปวดร้าวใจทั้งสิ้น
            2. มีการแลกเปลี่ยนเกิดขึ้นคือ เมื่อเราได้รับการยอมรับเนื่องด้วยการถูกปฏิเสธของพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ เราก็ “ได้รับการยอมรับในพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ผู้ทรงเป็นที่รัก”

            บางครั้งคุณไม่จำเป็นต้องทำอะไรมากไปกว่าการยึดมั่นในข้อเท็จจริงทั้งสองนี้เพื่อเอาชนะการถูกปฏิเสธ ในการประชุมครั้งหนึ่งที่จัดขึ้นเมื่อสองสามปีก่อน ขณะที่ผมกำลังรีบจะไปเทศนา และบังเอิญไปเจอกับหญิงคนหนึ่งที่กำลังมุ่งหน้าไปอีกทางหนึ่ง เธอหายใจหอบและพูดว่า “โอ้ อาจารย์ปริ๊นซ์! ดิฉันกำลังอธิษฐานว่า ถ้าพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าต้องการให้ดิฉันพบกับอาจารย์ เราก็จะได้พบกัน”

            “เอาล่ะ” ผมพูดว่า “เราได้เจอกันแล้ว มีปัญหาอะไรรึเปล่าครับ? ผมให้เวลาคุณได้ประมาณสองนาที ผมกำลังจะขึ้นเทศนาแล้ว”

            เธอเริ่มต้นพูด และหลังจากนั้นประมาณครึ่งนาที ผมก็พูดว่า "เดี๋ยวก่อน" ผมรู้ปัญหาของคุณแล้ว ผมไม่ต้องการข้อเท็จจริงอะไรอีก ปัญหาของคุณคือ การถูกปฏิเสธ” ผมบอกเธอว่า “ผมอยากให้คุณพูดคำเหล่านี้ออกมาดังๆ ตามผม” ผมจึงนำเธอก⁠ล⁠่⁠า⁠วคำประกาศซึ่งเธอได้พูดตาม ผมจำค⁠ำ⁠พ⁠ู⁠ดที่แน่ชัดไม่ได้ แต่เป็นค⁠ำ⁠พ⁠ู⁠ดประมาณนี้คือ “ข้าแต่พ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠า ข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ขอบคุณที่พ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ทรงเป็นพ⁠ร⁠ะ⁠บ⁠ิ⁠ด⁠าของข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ และข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์เป็นลูกของพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ ข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์เป็นสมาชิกครอบครัวของพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠า สวรรค์คือบ้านของข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ ข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว ข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ไม่ได้ถูกปฏิเสธ ข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ได้รับการยอมรับ พ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าทรงรักข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ พ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ทรงต้องการข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ พ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ทรงห่วงใยข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์” แล้วผมก็พูดว่า "อาเมน" และ "ลาก่อน ผมต้องไปแล้ว" แล้วก็จากเธอไป

            ประมาณหนึ่งเดือนต่อมา ผมได้รับจดหมายจากบุคคลคนเดียวกันนั้น ซึ่งเธอบอกว่า "ดิฉันอยากจะบอกอาจารย์ว่าสองนาทีที่อาจารย์ใช้เวลากับดิฉัน และค⁠ำ⁠พ⁠ู⁠ดเหล่านั้นที่ดิฉันพูดไป ได้เปลี่ยนชีวิตทั้งชีวิตของดิฉันไปอย่างสิ้นเชิง ดิฉันเปลี่ยนแปลงไปเป็นคนละคนนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา” ทำไมเธอถึงได้แตกต่าง? เพราะเธอได้ตระหนักว่า การเป็นที่ยอมรับในพ⁠ร⁠ะ⁠ค⁠ร⁠ิ⁠ส⁠ต⁠์นั้นหมายค⁠ว⁠า⁠มว่าอย่างไร

            สี่ขั้นตอน

            สำหรับหลายๆ คน การประกาศง่ายๆ ว่าตนได้รับการยอมรับในพ⁠ร⁠ะ⁠ค⁠ร⁠ิ⁠ส⁠ต⁠์ก็สามารถแก้ไขปัญหาได้แล้ว แต่สำหรับคนอื่นนั้นอาจต้องทำมากกว่านี้ ดังนั้นผมจะอธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยเกี่ยวกับขั้นตอนง่ายๆ ที่คุณต้องทำหากคุณประสบกับปัญหาการถูกปฏิเสธ ผมเชื่อว่าพ⁠ร⁠ะ⁠ว⁠ิ⁠ญ⁠ญ⁠า⁠ณ⁠บ⁠ร⁠ิ⁠ส⁠ุ⁠ท⁠ธ⁠ิ⁠์จะทรงสำแดงให้คุณเห็นว่าคุณเป็นเช่นนั้นหรือไม่

            1. ยกโทษให้ผู้ที่ปฏิเสธคุณ

            นี่เป็นสิ่งจำเป็น คุณอาจจะพูดว่า “ก็พ่อของฉันตายแล้ว” เพราะมีคนพูดกับผมอย่างนี้หลายต่อหลายครั้ง และทุกครั้งผมก็ตอบไปว่า “นั่นไม่สำคัญ เพราะที่คุณให้อภัย คุณไม่ได้ทำไปเพราะเห็นแก่พ่อของคุณ แต่ทำไปก็เพื่อประโยชน์ของคุณเอง"

            ผมรู้จักชายหนุ่มคริสเตียนที่ดีคนหนึ่งที่ได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาตระหนักว่าเป็นเวลาหลายปีที่เขาต้องแบกรับค⁠ว⁠า⁠มขมขื่น ค⁠ว⁠า⁠มขุ่นเคือง ค⁠ว⁠า⁠มโกรธ และการกบฏต่อพ่อของเขาซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว เขาได้พาภรรยาเดินทางเป็นระยะทางหลายร้อยไมล์ไปยังสุสานที่ฝังศพพ่อของเขา เขาได้ละภรรยาไว้ในรถ ส่วนเขาเดินไปที่หลุมศพพ่อตามลำพัง เขาคุกเข่าลงที่นั่นและใช้เวลาหลายชั่วโมงถัดมาเพื่อขจัดทัศนคติที่เป็นพิษทั้งหมดของเขา เขาไม่ได้ลุกขึ้นจนกว่าเขาจะรู้แน่ว่าเขาได้ยกโทษให้พ่อแล้ว เมื่อเขาเดินออกจากสุสานนั้น เขาก็กลายเป็นคนละคน ปัจจุบันภรรยาของเขาเป็นพยานว่า เธอได้สามีคนใหม่กลับมา พ่อของเขาได้เสียชีวิตไปแล้ว แต่ค⁠ว⁠า⁠มขุ่นเคืองของเขาเองยังคงอยู่

            การให้อภัยนั้นไม่ใช่ก⁠า⁠ร⁠ก⁠ร⁠ะ⁠ท⁠ำเพื่อประโยชน์ของผู้ที่ตายไปแล้วหรือผู้ที่อยู่ห่างไกล แต่เพื่อให้ค⁠ว⁠า⁠มสัมพันธ์ของคุณที่เรากำลังพูดถึงนั้นจบลง คุณต้องให้อภัยเพื่อตัวของคุณเอง ผมขอให้คุณนึกถึงบางสิ่งที่ผมได้พูดไปหลายครั้งแล้วก็คือ การให้อภัยไม่ใช่เรื่องของอารมณ์ค⁠ว⁠า⁠มรู้สึก แต่มันคือการตัดสินใจ อย่าพูดว่า “ฉันทำไม่ได้หรอก” หากพูดกันตามจริงมันคือ "ฉันจะไม่ (ให้อภัย)" หากคุณสามารถพูดได้ว่า “ฉันจะไม่ (ให้อภัย)” คุณก็สามารถพูดได้ว่า “ฉันจะ (ให้อภัย)” เช่นกัน

            ประการแรก คุณต้องให้อภัยทุกคนที่คุณรู้สึกว่าเขาปฏิเสธคุณ

            2. วางค⁠ว⁠า⁠มขมขื่น ค⁠ว⁠า⁠มขุ่นเคือง ค⁠ว⁠า⁠มเกลียดชัง และการกบฏลง

            นี่คือปฏิกิริยาสี่ประการที่มักมาพร้อมกับการถูกปฏิเสธที่ฝังลึก

            3. ยอมรับค⁠ว⁠า⁠มจริงที่ว่า คุณเป็นที่ยอมรับแล้วในพ⁠ร⁠ะ⁠ค⁠ร⁠ิ⁠ส⁠ต⁠์ และพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าทรงยอมรับคุณ

            ผมขอย้ำอีกครั้งว่านี่ไม่ได้หมายค⁠ว⁠า⁠มว่า พ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์เพียงแค่ยอมอดทนต่อคุณเท่านั้น แต่พ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ทรงรักคุณ พ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ทรงสนใจคุณ พ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ทรงห่วงใยคุณ ผมไม่ทราบแน่ว่าผมได้บอกสิ่งนี้กับคนหนุ่มสาวไปกี่คนแล้ว และได้เห็นใบหน้าข⁠อ⁠ง⁠พ⁠ว⁠ก⁠เ⁠ข⁠าเปล่งประกายขึ้นเหมือนที่ผมเคยเป็น

            4. ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่คุณต้องทำ และอย่าลืมสิ่งนี้คือ คุณจะต้องยอมรับตัวเอง

            บางครั้งนี่อาจเป็นส่วนที่ยากที่สุด ผมบอกกับลูกๆ ของพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าว่าอย่าดูถูกตัวเอง และอย่าวิพากษ์วิจารณ์ตัวเอง เพราะคุณเป็นฝีพระหัตถ์ของพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠า

            “สิ่งถูกปั้นจะก⁠ล⁠่⁠า⁠วแก่ผู้ปั้นได้หรือว่า “ทำไมท่านจึงปั้นข้าพเจ้าอย่างนี้?”’ (โรม 9:20 - THSV11)

            ไม่ใช่หน้าที่ของคุณที่จะวิพากษ์วิจารณ์ พ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าทรงรู้ว่าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ทรงกำลังทำอะไรอยู่ ขอเพียงวางใจพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ ในฐานะคริสเตียน การวิพากษ์วิจารณ์ตัวเองนั้นไม่ใช่ค⁠ว⁠า⁠มถ่อมใจแต่เป็นการกบฏ อย่าได้ดูถูกตัวเอง คุณคือฝีพระหัตถ์ของพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠า เป็นผลงานชิ้นเอกของพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ ซึ่งเป็นสิ่งที่พ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ทรงอุทิศเวลามากที่สุดและใส่พระทัยมากกว่าทุกสิ่งที่พ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์เคยทรงสร้างมาในจักรวาลนี้ คุณคือผู้ที่พ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าทรงให้ค⁠ว⁠า⁠มสำคัญและค⁠ว⁠า⁠มสนใจเป็นอันดับแรก หากนั่นไม่ทำให้คุณรู้สึกดี ผมก็ไม่รู้แล้วว่าอะไรจะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นได้

            รับการปลดปล่อย

            เมื่อเราได้ดูแง่มุมต่างๆ ของการถูกปฏิเสธแล้ว ผมอยากเชิญชวนคุณให้ปลดปล่อยตัวเองจากการถูกปฏิเสธนั้น บางทีนี่อาจเป็นพื้นที่ในชีวิตของคุณที่คุณไม่เคยเผชิญมาก่อน และตอนนี้พ⁠ร⁠ะ⁠ว⁠ิ⁠ญ⁠ญ⁠า⁠ณ⁠บ⁠ร⁠ิ⁠ส⁠ุ⁠ท⁠ธ⁠ิ⁠์ได้ทรงเปิดเผยบางสิ่งที่จิตใจของคุณปฏิเสธที่จะรับรู้มาโดยตลอด หากองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสำแดงให้คุณเห็นว่าคุณต้องได้รับการปลดปล่อยจากการถูกปฏิเสธ และคุณอยากจะลงมือปฏิบัติจริง ผมขอแนะนำให้คุณพูดคำประกาศต่อไปนี้ออกมาดังๆ และในขณะที่คุณกำลังประกาศคำเหล่านี้ หากคุณเริ่มสะอื้นหรือร้องไห้ อย่าปิดกั้นสิ่งนั้นเอาไว้! เพราะถึงคุณจะมีเงินเป็นพันดอลล่าร์ คุณก็ไม่สามารถหาซื้อประสบการณ์แบบนี้ได้อีกแล้ว

            *Prayer Response

            พ⁠ร⁠ะ⁠บ⁠ิ⁠ด⁠าเจ้าข้า ข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ขอให้อภัย ข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ขอวางค⁠ว⁠า⁠มขมขื่น ค⁠ว⁠า⁠มขุ่นเคือง ค⁠ว⁠า⁠มเกลียดชัง และการกบฏลง ข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ขอบพระคุณพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าที่ข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ได้รับการยอมรับแล้วในพ⁠ร⁠ะ⁠ค⁠ร⁠ิ⁠ส⁠ต⁠์ ข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์เป็นลูกของพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠า สวรรค์คือบ้านของข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ ข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวที่ดีที่สุดในจักรวาล ข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์เป็นเชื้อสายในพระราชวงศ์ของพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์

            ข้าแต่พ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠ย⁠ซ⁠ูคริสต์ ข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์เชื่อว่าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ทรงเป็นพ⁠ร⁠ะ⁠บ⁠ุ⁠ต⁠รของพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠า และเป็นหนทางเดียวที่จะไปถึงพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠า พ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ทรงสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนเพื่อบาปของข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ และพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ทรงเป็นขึ้นมาจากค⁠ว⁠า⁠มตายอีกครั้ง ข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ขอกลับใจจากบาปทั้งสิ้นของข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ และข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ขอให้อภัยคนทุกคน เหมือนที่ข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์อยากให้พ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ทรงให้อภัยข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ ทุกคนที่ปฏิเสธและทำให้ข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์เจ็บปวด และไม่ได้แสดงค⁠ว⁠า⁠มรักต่อข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ พ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์เจ้าข้า บัดนี้ข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ขอให้อภัยพวกเขาทั้งหมด

            ข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์วางใจในพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์สำหรับการให้อภัยของพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ และข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์เชื่อว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงยอมรับข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์แล้วในเวลานี้ เพราะข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์อยู่ในพ⁠ร⁠ะ⁠ค⁠ร⁠ิ⁠ส⁠ต⁠์ ข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ได้รับการยอมรับ ข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ได้รับค⁠ว⁠า⁠มโปรดปรานอย่างสูง ข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์เป็นจุดมุ่งหมายของการดูแลอันพิเศษของพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ พ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ทรงรักข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์จริงๆ พ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ทรงต้องการข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ พ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์คือพ⁠ร⁠ะ⁠บ⁠ิ⁠ด⁠าของข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ พ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์เจ้าข้า ข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์อยากขอบพระคุณพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์

            และข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์อยากจะบอกพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ด้วยว่า ข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ยอมรับตัวของข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์เองในพ⁠ร⁠ะ⁠ค⁠ร⁠ิ⁠ส⁠ต⁠์ ในแบบที่พ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ทรงสร้างข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์มา ข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์เป็นฝีพระหัตถ์ของพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ ข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ขอบพระคุณพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์สำหรับสิ่งที่พ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ทรงกระทำ และข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์เชื่อว่าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ได้ทรงเริ่มต้นการดีแล้ว และจะทรงกระทำต่อไปจนถึงวันแห่งพ⁠ร⁠ะ⁠ค⁠ร⁠ิ⁠ส⁠ต⁠์องค์พระผู้เป็นเจ้า บัดนี้ข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ขอปลดปล่อยตัวข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์เองจากค⁠ว⁠า⁠มกดดันอันมืดมนและชั่วร้าย ข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ขอปลดปล่อยจิตวิญญาณของข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ให้ชื่นชมยินดีในพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ ในพระนามพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠ย⁠ซ⁠ูคริสต์เจ้า อาเมน

            ฉันได้อธิษฐานแล้ว
            48
            แบ่งปัน
            Expand Content

            What People Say

            See how ทางออกของการถูกปฏิเสธ has impacted lives across the globe.

            "I've applied the Biblical principles on family relationships from this teaching, and it has completely restored harmony in our home. My teenagers and I now have meaningful conversations about faith, and my marriage has been strengthened in ways I never thought possible."
            Elena R., Brazil
            "The teachings on spiritual warfare completely transformed my approach to daily challenges. I used to feel overwhelmed by life's obstacles, but now I understand how to stand firm in faith. This teaching gave me practical tools I use every single day."
            Sarah K., California
            "After 20 years of struggling with unforgiveness, the Biblical principles shared in this teaching helped me release the bitterness I had been carrying. The step-by-step approach to forgiveness wasn't just theory—it actually worked in my life when nothing else had."
            Michael T., United Kingdom
            "As a new Christian, I was confused about many aspects of faith. These teachings provided clear, Scripture-based explanations that helped build my foundation. I'm especially grateful for how the content made complex concepts accessible without watering down the truth."
            Priya M., India
            "The teaching on God's sovereignty during difficult times came to me exactly when I needed it most. After losing my job and facing health challenges, this message reminded me that God remains in control. It gave me hope when I had none left."
            James L., Australia
            "I've applied the Biblical principles on family relationships from this teaching, and it has completely restored harmony in our home. My teenagers and I now have meaningful conversations about faith, and my marriage has been strengthened in ways I never thought possible."
            Elena R., Brazil
            "The teachings on spiritual warfare completely transformed my approach to daily challenges. I used to feel overwhelmed by life's obstacles, but now I understand how to stand firm in faith. This teaching gave me practical tools I use every single day."
            Sarah K., California
            Ad Image

            *Free download

            *This Teaching Letter is available to download, print and share for personal or church use.

            ดาวน์โหลด PDF

            รหัส: TL-L085-100-THA

            ของขวัญ
            ให้
            ส่งคำติชม