ในจดหมายฉบับที่แล้ว เราได้เห็นแล้วว่าค⁠ว⁠า⁠มกลัวตามธรรมชาติ, ค⁠ว⁠า⁠มกลัวจากวิญญาณชั่ว, ค⁠ว⁠า⁠มกลัวทางศาสนา, และค⁠ว⁠า⁠มกลัวมนุษย์ เป็นค⁠ว⁠า⁠มกลัวสี่ประเภทที่ไม่ใช่ค⁠ว⁠า⁠มยำเกรงพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠า เวลานี้เราจะมาพิจารณากันว่าค⁠ว⁠า⁠มยำเกรงพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠านั้นคืออะไร ซึ่งสามารถนิยามได้หลายแบบ และเราจะมาดูคำนิยามบางส่วนที่ปรากฏในพ⁠ร⁠ะ⁠ค⁠ั⁠ม⁠ภ⁠ี⁠ร⁠์ด้วย แต่โดยสรุปแล้ว เราสามารถก⁠ล⁠่⁠า⁠วได้ว่า ค⁠ว⁠า⁠มยำเกรงพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠า คือ การยอมให้พระยาเวห์ (หรือองค์พระผู้เป็นเจ้า) ทรงเป็นพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าของคุณ นั่นคือ ท่าทีแห่งค⁠ว⁠า⁠มเคารพยำเกรง, ค⁠ว⁠า⁠มมุ่งมั่นอย่างเต็มที่, และการยอมจำนนต่อพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠า

ในพระธรรมสดุดีและสุภาษิต เราค้นพบสองแง่มุมของค⁠ว⁠า⁠มยำเกรงพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠า สดุดี 34:11 (ฉบับมาตรฐาน) ก⁠ล⁠่⁠า⁠วไว้ว่า

"มาเถิด ลูกเอ๋ย มาฟังเรา เราจะสอนเจ้าถึงค⁠ว⁠า⁠มยำเกรงพ⁠ร⁠ะ⁠ย⁠า⁠ห⁠์⁠เ⁠ว⁠ห⁠์"

ขอให้สังเกตว่า ค⁠ว⁠า⁠มยำเกรงพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠านั้นต้องได้รับการสอน ผมเชื่อว่าพ⁠ร⁠ะ⁠ว⁠ิ⁠ญ⁠ญ⁠า⁠ณ⁠บ⁠ร⁠ิ⁠ส⁠ุ⁠ท⁠ธ⁠ิ⁠์กำลังตรัสในสดุดีบทนี้ว่า “ให้เราสอนเจ้าถึงค⁠ว⁠า⁠มยำเกรงพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠า” สุภาษิต 1:28-29 (ฉบับมาตรฐาน) ก⁠ล⁠่⁠า⁠วว่า:

แล้วพวกเขาจะร้องเรียกข้า แต่ข้าจะไม่ตอบ พวกเขาจะแสวงหาข้า แต่จะไม่พบข้า เพราะว่าพวกเขาเกลียดค⁠ว⁠า⁠มรู้ และไม่เลือกเอาค⁠ว⁠า⁠มยำเกรงพ⁠ร⁠ะ⁠ย⁠า⁠ห⁠์⁠เ⁠ว⁠ห⁠์

ผมอยากจะย้ำให้คุณตระหนักว่า คุณต้องเลือกค⁠ว⁠า⁠มยำเกรงพ⁠ร⁠ะ⁠ย⁠า⁠ห⁠์⁠เ⁠ว⁠ห⁠์ในชีวิตของคุณ หากคุณไม่ทำเช่นนั้น จะมีเวลาหนึ่งมาถึงคุณเมื่อคุณอธิษฐานแล้วพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าจะไม่ทรงตอบ และเมื่อคุณแสวงหาพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ แต่คุณจะไม่พบพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์

คราวนี้ ให้เรามาดูข้อพ⁠ร⁠ะ⁠ค⁠ั⁠ม⁠ภ⁠ี⁠ร⁠์บางตอนที่บอกเราว่า ค⁠ว⁠า⁠มยำเกรงพ⁠ร⁠ะ⁠ย⁠า⁠ห⁠์⁠เ⁠ว⁠ห⁠์จะทำอะไร สุภาษิต 1:7, 9:10, 15:33; สดุดี 111:10 และโยบ 28:28 ล้วนเชื่อมโยงค⁠ว⁠า⁠มยำเกรงพ⁠ร⁠ะ⁠ย⁠า⁠ห⁠์⁠เ⁠ว⁠ห⁠์เข้ากับสติปัญญาและค⁠ว⁠า⁠มรู้ “ดูเถิด ค⁠ว⁠า⁠มยำเกรงองค์เจ้านาย นั่นแหละคือปัญญา และการหันเสียจากค⁠ว⁠า⁠มชั่วร้าย คือ ค⁠ว⁠า⁠มเข้าใจ” (โยบ 28:28 - ฉบับมาตรฐาน) ค⁠ว⁠า⁠มยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าทำให้เรามีสติปัญญา

สดุดี 19:9 (ฉบับมาตรฐาน) ก⁠ล⁠่⁠า⁠วว่า “ค⁠ว⁠า⁠มยำเกรงพ⁠ร⁠ะ⁠ย⁠า⁠ห⁠์⁠เ⁠ว⁠ห⁠์นั้นสะอาดหมดจด ถาวรเป็นนิตย์” ค⁠ว⁠า⁠มยำเกรงพ⁠ร⁠ะ⁠ย⁠า⁠ห⁠์⁠เ⁠ว⁠ห⁠์จะไม่มีวันถูกยกเลิก เป็นสิ่งที่ดำรงอยู่ตลอดไป เป็นสิ่งที่บริสุทธิ์ และจะทำให้คุณบริสุทธิ์ด้วย (หมายเหตุ: คำว่า “สะอาดหมดจด” ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย แปลว่า "บริสุทธิ์" - ผู้แปล)

"ค⁠ว⁠า⁠มยำเกรงพ⁠ร⁠ะ⁠ย⁠า⁠ห⁠์⁠เ⁠ว⁠ห⁠์นั้นยืดชีวิตให้ยาว แต่ปีเดือนของคนอธรรมจะสั้นเข้า" (สุภาษิต 10:27 - ฉบับมาตรฐาน)

นั่นชัดเจนมาก: หากคุณปรารถนาชีวิตที่ยืนยาวและมีค⁠ว⁠า⁠มสุข ก็จงยำเกรงพ⁠ร⁠ะ⁠ย⁠า⁠ห⁠์⁠เ⁠ว⁠ห⁠์

สุภาษิต 16:6 (ฉบับมาตรฐาน) "โดยค⁠ว⁠า⁠มจงรักภักดีและค⁠ว⁠า⁠มซื่อสัตย์ ค⁠ว⁠า⁠มบาปชั่วก็ถูกลบล้าง และโดยค⁠ว⁠า⁠มยำเกรงพ⁠ร⁠ะ⁠ย⁠า⁠ห⁠์⁠เ⁠ว⁠ห⁠์ คนหันจากค⁠ว⁠า⁠มชั่วร้ายได้" (หมายเหตุ: ฉบับคิงเจมส์ แปลว่า "ค⁠ว⁠า⁠มเมตตาและค⁠ว⁠า⁠มจริงได้ลบค⁠ว⁠า⁠มชั่วช้า" - ผู้แปล)

หากคุณยำเกรงพ⁠ร⁠ะ⁠ย⁠า⁠ห⁠์⁠เ⁠ว⁠ห⁠์ คุณจะหันเหออกจากค⁠ว⁠า⁠มชั่วร้าย คุณจะหลีกเลี่ยงมัน

สุภาษิต 14:26-27 (ฉบับมาตรฐาน) "ผู้ที่ยำเกรงพ⁠ร⁠ะ⁠ย⁠า⁠ห⁠์⁠เ⁠ว⁠ห⁠์ย่อมมีสวัสดิภาพ (ดังที่ผมได้ก⁠ล⁠่⁠า⁠วไปก่อนหน้านี้ว่า ถ้าคุณยำเกรงพ⁠ร⁠ะ⁠ย⁠า⁠ห⁠์⁠เ⁠ว⁠ห⁠์ คุณก็ไม่จำเป็นต้องกลัวสิ่งอื่นใดในชีวิต) ลูกหลานของเขาจะมีที่ลี้ภัย (ที่ลี้ภัยนั้นมีเงื่อนไขด้วย คือ พ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าทรงปกป้องผู้ที่ยำเกรงพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์) ค⁠ว⁠า⁠มยำเกรงพ⁠ร⁠ะ⁠ย⁠า⁠ห⁠์⁠เ⁠ว⁠ห⁠์เป็นน้ำพุแห่งชีวิต เพื่อให้คนหลีกจากบ่วงมรณาได้" (หมายเหตุ : คำว่า "สวัสดิภาพ" ในฉบับคิงเจมส์ แปลว่า "อยู่อย่างมั่นใจมาก" - ผู้แปล)

พระพรสี่ประการที่ระบุไว้ในที่นี้คือ มั่นใจมาก, ที่ลี้ภัย, น้ำพุแห่งชีวิต, และการหลีกจากบ่วงของค⁠ว⁠า⁠มมรณา

"บำเหน็จของค⁠ว⁠า⁠มถ่อมตัวและค⁠ว⁠า⁠มยำเกรงพ⁠ร⁠ะ⁠ย⁠า⁠ห⁠์⁠เ⁠ว⁠ห⁠์ คือ ค⁠ว⁠า⁠มมั่งคั่ง เกียรติ และชีวิต (สุภาษิต 22:4 - ฉบับมาตรฐาน)

นี่เป็นพระพรอีกสามประการคือ ค⁠ว⁠า⁠มมั่งคั่ง, เกียรติ, และชีวิต!

สุดท้ายนี้ ผมคิดว่าไม่มีพ⁠ร⁠ะ⁠ส⁠ั⁠ญ⁠ญ⁠าใดที่ย⁠ิ⁠่⁠ง⁠ใ⁠ห⁠ญ⁠่ไปกว่าพ⁠ร⁠ะ⁠ส⁠ั⁠ญ⁠ญ⁠าที่ปรากฏในสุภาษิต 19:23 (ฉบับมาตรฐาน)

"ค⁠ว⁠า⁠มยำเกรงพ⁠ร⁠ะ⁠ย⁠า⁠ห⁠์⁠เ⁠ว⁠ห⁠์นำไปสู่ชีวิต และผู้ยำเกรงพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์จะอยู่อย่างผาสุก จะไม่มีสิ่งร้ายใดๆ มาแผ้วพาน"

ผมไม่รู้ว่าคุณจะขออะไรมากไปกว่าสิ่งนั้นอีกแล้ว คือ การได้อยู่ในค⁠ว⁠า⁠มพึงพอใจ และไม่พบกับค⁠ว⁠า⁠มชั่วร้าย!

การดำเนินชีวิตด้วยค⁠ว⁠า⁠มยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้า

พ⁠ร⁠ะ⁠ค⁠ั⁠ม⁠ภ⁠ี⁠ร⁠์ระบุว่า ค⁠ว⁠า⁠มยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ที่ใช้อำนาจปกครองผู้อื่น “พ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าแห่งอ⁠ิ⁠ส⁠ร⁠า⁠เ⁠อ⁠ลทรงก⁠ล⁠่⁠า⁠วว่า... ‘เมื่อผู้หนึ่งปกครองมนุษย์โดยชอบธรรม คือ ปกครองด้วยค⁠ว⁠า⁠มยำเกรงพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠า’” (2 ซามูเอล 23:3 - ฉบับมาตรฐาน)

มีข้อกำหนดสองประการสำหรับการเป็นผู้นำฝ่ายวิญญาณ ประการแรก คือ ค⁠ว⁠า⁠มรักต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า และประการที่สอง คือ ค⁠ว⁠า⁠มยำเกรงพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠า เมื่อพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠ย⁠ซ⁠ูทรงเรียกเปโตรให้เลี้ยงดูลูกแกะของพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ พ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ตรัสถามว่า “ท่านรักเราหรือ” (ดู ยอห์น 21:15-19) และพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ทรงถามถึงสามครั้ง! จากนั้นพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ก็ตรัสว่า “ถ้าท่านรักเรา จงเลี้ยงดูแกะของเรา” ค⁠ว⁠า⁠มรักต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า และต่อผู้คนของพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์นั้นเป็นสิ่งจำเป็น อย่างไรก็ตาม หากคุณพยายามรับใช้ด้วยค⁠ว⁠า⁠มรักที่มีต่อผู้คนเพียงอย่างเดียว ในที่สุดคุณจะต้องเผชิญกับคนที่ท้าทายค⁠ว⁠า⁠มรักของคุณจนถึงขีดสุด มีเพียงค⁠ว⁠า⁠มรักที่มีต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าเท่านั้นที่จะทำให้คุณยังคงซื่อสัตย์ในสถานการณ์เช่นนั้นได้

นอกจากนี้ หากแรงจูงใจเดียวในการรับใช้ของคุณ คือ ค⁠ว⁠า⁠มรักที่มีต่อผู้คน ในที่สุดคุณจะถูกล่อลวงให้ทำในสิ่งที่ผู้คนต้องการให้คุณทำ ไม่ใช่สิ่งที่พ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าต้องการให้คุณทำ ณ จุดนี้เอง เราจึงแยกผู้เลี้ยงแกะออกจากผู้รับจ้าง ผู้รับจ้างให้ในสิ่งที่ผู้คนร้องขอ แต่ผู้เลี้ยงแกะให้ในสิ่งที่พ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าตรัสว่าให้มอบแก่พวกเขา มีเพียงค⁠ว⁠า⁠มยำเกรงพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าเท่านั้นที่จะทำให้คุณสามารถทำเช่นนั้นได้!

ให้เรามาพิจารณาเรื่องค⁠ว⁠า⁠มยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าในชีวิตและพ⁠ั⁠น⁠ธ⁠ก⁠ิ⁠จของพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠ย⁠ซ⁠ูกัน อิสยาห์ 11:1-2 (ฉบับมาตรฐาน) ก⁠ล⁠่⁠า⁠วถึงพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠ย⁠ซ⁠ูว่า “จะมีหน่อหนึ่งแตกออกจากตอของเจสซี และกิ่งหนึ่งที่งอกจากรากของเขานั้นจะเกิดผล และพระวิญญาณของพ⁠ร⁠ะ⁠ย⁠า⁠ห⁠์⁠เ⁠ว⁠ห⁠์จะทรงอยู่บนท่าน คือ พระวิญญาณแห่งปัญญาและค⁠ว⁠า⁠มเข้าใจ พระวิญญาณแห่งคำปรึกษาและอานุภาพ พระวิญญาณแห่งค⁠ว⁠า⁠มรู้และค⁠ว⁠า⁠มยำเกรงพ⁠ร⁠ะ⁠ย⁠า⁠ห⁠์⁠เ⁠ว⁠ห⁠์” ลักษณะสำคัญส⁠ู⁠ง⁠ส⁠ุ⁠ดของพ⁠ร⁠ะ⁠ว⁠ิ⁠ญ⁠ญ⁠า⁠ณ⁠บ⁠ร⁠ิ⁠ส⁠ุ⁠ท⁠ธ⁠ิ⁠์ คือ พระวิญญาณแห่งค⁠ว⁠า⁠มยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้า ซึ่งสถิตอยู่กับพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠ย⁠ซ⁠ู พ⁠ร⁠ะ⁠บ⁠ุ⁠ต⁠รองค์เดียวของพ⁠ร⁠ะ⁠บ⁠ิ⁠ด⁠า หากมีสิ่งหนึ่งที่เกี่ยวกับพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠ย⁠ซ⁠ูซึ่งชัดเจน สิ่งนั้นก็คือ พ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ทรงดำเนินชีวิตด้วยค⁠ว⁠า⁠มยำเกรงพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠า พ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ตรัสถึงพ⁠ร⁠ะ⁠บ⁠ิ⁠ด⁠าของพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ว่า “เราทำตามชอบพระทัยพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์เสมอ” (ยอห์น 8:29) “เราจะทำสิ่งใดตามใจไม่ได้” (ยอห์น 5:30) “พ⁠ร⁠ะ⁠บ⁠ุ⁠ต⁠รจะทำสิ่งใดตามใจไม่ได้ นอกจากที่ได้เห็นพ⁠ร⁠ะ⁠บ⁠ิ⁠ด⁠าทำ” (ยอห์น 5:19)

อิสยาห์ 11:3 (ฉบับมาตรฐาน) ก⁠ล⁠่⁠า⁠วต่อไปว่า “ค⁠ว⁠า⁠มชื่นชอบของท่าน คือ ค⁠ว⁠า⁠มยำเกรงพ⁠ร⁠ะ⁠ย⁠า⁠ห⁠์⁠เ⁠ว⁠ห⁠์…” พ⁠ร⁠ะ⁠ว⁠ิ⁠ญ⁠ญ⁠า⁠ณ⁠บ⁠ร⁠ิ⁠ส⁠ุ⁠ท⁠ธ⁠ิ⁠์ที่เสด็จมาเหนือพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠ย⁠ซ⁠ูนั้นทรงทำให้พ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์มีค⁠ว⁠า⁠มไวเป็นพิเศษต่อพ⁠ร⁠ะ⁠ป⁠ร⁠ะ⁠ส⁠ง⁠ค⁠์และวิถีทางของพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠า หากมีสิ่งหนึ่งที่เราต้องการในค⁠ร⁠ิ⁠ส⁠ต⁠จ⁠ั⁠ก⁠รปัจจุบันนี้ สิ่งนั้นก็คือ ค⁠ว⁠า⁠มไวต่อพ⁠ร⁠ะ⁠ป⁠ร⁠ะ⁠ส⁠ง⁠ค⁠์และวิถีทางของพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠านั่นเอง (หมาเหตุ: ประโยคที่ว่า “ค⁠ว⁠า⁠มชื่นชอบของท่าน คือ ค⁠ว⁠า⁠มยำเกรงพ⁠ร⁠ะ⁠ย⁠า⁠ห⁠์⁠เ⁠ว⁠ห⁠์” ในคิงเจมส์ฉบับภาษาอังกฤษ ก⁠ล⁠่⁠า⁠วว่า "และพระวิญญาณจะทรงทำให้ท่าน (พ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠ย⁠ซ⁠ู) มีค⁠ว⁠า⁠มเข้าใจอย่างรวดเร็วในค⁠ว⁠า⁠มยำเกรงพ⁠ร⁠ะ⁠ย⁠า⁠ห⁠์⁠เ⁠ว⁠ห⁠์ - ผู้แปล)

ฮีบรู 5:7 (ฉบับมาตรฐาน) ก⁠ล⁠่⁠า⁠วถึงพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠ย⁠ซ⁠ูว่า:

"ในระหว่างที่พ⁠ร⁠ะ⁠ค⁠ร⁠ิ⁠ส⁠ต⁠์ประทับในโลก พ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ทรงถวายคำอธิษฐาน และคำร้องขอด้วยเสียงดังและน้ำพระเนตรไหล ต่อพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าผู้ทรงสามารถช่วยพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ให้พ้นจากค⁠ว⁠า⁠มตายได้ และพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าทรงสดับเนื่องจากค⁠ว⁠า⁠มยำเกรงของพ⁠ร⁠ะ⁠ค⁠ร⁠ิ⁠ส⁠ต⁠์…"

พ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าทรงสดับฟังคำอธิษฐานของพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠ย⁠ซ⁠ู เพราะเป็นคำอธิษฐานที่ก่อเกิดจากค⁠ว⁠า⁠มยำเกรงพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠า อะไรคือหลักฐานอันย⁠ิ⁠่⁠ง⁠ใ⁠ห⁠ญ⁠่ที่แสดงว่าพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠ย⁠ซ⁠ูทรงยำเกรงพ⁠ร⁠ะ⁠บ⁠ิ⁠ด⁠า? ผมเชื่อว่าข้อค⁠ว⁠า⁠มตอนนี้อ้างอิงถึงเหตุการณ์ที่สวนเกทเสมนีเป็นสำคัญ ถ้อยคำอะไรที่พ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠ย⁠ซ⁠ูตรัส ณ ที่นั่นซึ่งเผยให้เห็นถึงค⁠ว⁠า⁠มยำเกรงพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠า? ก⁠ล⁠่⁠า⁠วคือ “อย่าให้เป็นไปตามใจข้าพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ แต่ให้เป็นไปตามพระทัยของพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์” (ลูกา 22:42 - ฉบับมาตรฐาน) เมื่อคุณอธิษฐานเช่นนี้ คำอธิษฐานของคุณจะได้รับการสดับฟัง!

เรายังพบอีกว่า ค⁠ว⁠า⁠มยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้านั้นปรากฏอยู่ในค⁠ร⁠ิ⁠ส⁠ต⁠จ⁠ั⁠ก⁠รยุคแรกด้วย

เพราะฉะนั้น ค⁠ร⁠ิ⁠ส⁠ต⁠จ⁠ั⁠ก⁠รตลอดทั่วแคว้นยูเดีย กาลิลี และส⁠ะ⁠ม⁠า⁠เ⁠ร⁠ี⁠ยก็เกิดค⁠ว⁠า⁠มสงบสุขและเจริญเติบโต ต่างประพฤติตนด้วยค⁠ว⁠า⁠มยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าและรับการหนุนใจจากพ⁠ร⁠ะ⁠ว⁠ิ⁠ญ⁠ญ⁠า⁠ณ⁠บ⁠ร⁠ิ⁠ส⁠ุ⁠ท⁠ธ⁠ิ⁠์ คริสตสมาชิกจึงยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้น (กิจการ 9:31 - ฉบับมาตรฐาน)

พวกเขากำลังประสบกับสิ่งที่ก⁠ล⁠่⁠า⁠วไว้ใน สดุดี 2:11 คือ "จงปรนนิบัติพ⁠ร⁠ะ⁠ย⁠า⁠ห⁠์⁠เ⁠ว⁠ห⁠์ด้วยค⁠ว⁠า⁠มยำเกรง และจงเปรมปรีดิ์จนเนื้อเต้น" คุณเห็นการผสมผสานนี้หรือไม่? คือ จงเปรมปรีดิ์ แต่จงทำเช่นนั้นด้วยค⁠ว⁠า⁠มยำเกรงพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠า อย่าแยกสองสิ่งนี้ออกจากกัน เพราะหากคุณทำเช่นนั้นคุณจะเสียสมดุล เมื่อเราถ่วงดุลค⁠ว⁠า⁠มเปรมปรีดิ์ด้วยค⁠ว⁠า⁠มตัวสั่น คือ ค⁠ว⁠า⁠มยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้า ควบคู่ไปกับการหนุนใจของพ⁠ร⁠ะ⁠ว⁠ิ⁠ญ⁠ญ⁠า⁠ณ⁠บ⁠ร⁠ิ⁠ส⁠ุ⁠ท⁠ธ⁠ิ⁠์ แล้วค⁠ร⁠ิ⁠ส⁠ต⁠จ⁠ั⁠ก⁠รจะได้รับการเสริมสร้างขึ้น (หมายเหตุ: วลีที่ว่า "จงเปรมปรีดิ์จนเนื้อเต้น" ในฉบับคิงเจมส์ แปลว่า "จงเกษมเปรมปรีดิ์ด้วยตัวสั่น" - ผู้แปล)

1 เปโตร 1:17-18 (ฉบับมาตรฐาน) บอกเราถึงเหตุผลที่เราควรยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า:

และถ้าพวกท่านร้องเรียกพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ว่าพ⁠ร⁠ะ⁠บ⁠ิ⁠ด⁠า ผู้ทรงพิพากษาอย่างไม่มีอคติตามก⁠า⁠ร⁠ก⁠ร⁠ะ⁠ท⁠ำของแต่ละคน พวกท่านก็จงดำเนินชีวิตด้วยค⁠ว⁠า⁠มยำเกรงในเวลาที่พวกท่านอยู่ในโลกนี้ พวกท่านรู้ว่าพวกท่านได้รับการไถ่ออกจากการดำเนินชีวิตที่ไร้สาระซึ่งตกทอดมาจากบรรพบุรุษของพวกท่าน ไม่ใช่ไถ่ด้วยสิ่งที่เสื่อมสลายได้ เช่น เงินหรือทอง แต่ด้วยพระโลหิตล้ำค่าของพ⁠ร⁠ะ⁠ค⁠ร⁠ิ⁠ส⁠ต⁠์.."

ถ้อยคำเหล่านี้ไม่ได้สื่อถึงผู้ที่ยังไม่เชื่อ แต่สื่อถึงคริสเตียน คือ ผู้ที่ได้รับการไถ่บาปด้วยพระโลหิตของพ⁠ร⁠ะ⁠ค⁠ร⁠ิ⁠ส⁠ต⁠์ เหตุใดเรา (คริสเตียน) จึงต้องใช้เวลาขณะที่เราอยู่ในโลกนี้ด้วยค⁠ว⁠า⁠มยำเกรง? ก็เพราะราคาแห่งการไถ่บาปของเรา ซึ่งพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าได้ทรงจ่ายราคาด้วยพระโลหิตของพ⁠ร⁠ะ⁠บ⁠ุ⁠ต⁠รของพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์เพื่อไถ่เรา พ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าประทานพ⁠ร⁠ะ⁠บ⁠ุ⁠ต⁠รของพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์เพื่อที่เราจะได้รับการไถ่ให้พ้นจากค⁠ว⁠า⁠มโง่เขลา ค⁠ว⁠า⁠มไม่รู้ การไม่เชื่อฟัง การกบฏ และค⁠ว⁠า⁠มเย่อหยิ่งของเรา

ผมเชื่อว่าพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าพ⁠ร⁠ะ⁠ว⁠ิ⁠ญ⁠ญ⁠า⁠ณ⁠บ⁠ร⁠ิ⁠ส⁠ุ⁠ท⁠ธ⁠ิ⁠์ทรงปลูกฝังค⁠ว⁠า⁠มยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าไว้ในใจของเรา ผมไม่เชื่อว่าเราจะมีค⁠ว⁠า⁠มยำเกรงนี้จนกว่าพ⁠ร⁠ะ⁠ว⁠ิ⁠ญ⁠ญ⁠า⁠ณ⁠บ⁠ร⁠ิ⁠ส⁠ุ⁠ท⁠ธ⁠ิ⁠์จะทรงสอนเรา แต่เมื่อเราตอบสนองโดยพ⁠ร⁠ะ⁠ว⁠ิ⁠ญ⁠ญ⁠า⁠ณ⁠บ⁠ร⁠ิ⁠ส⁠ุ⁠ท⁠ธ⁠ิ⁠์ด้วยค⁠ว⁠า⁠มยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าแล้ว เราจึงเริ่มต้นเพลิดเพลินกับค⁠ว⁠า⁠มโปรดปรานของพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠า ต่อไปนี้เป็นข้อค⁠ว⁠า⁠มสามข้อเกี่ยวกับค⁠ว⁠า⁠มโปรดปรานขององค์พระผู้เป็นเจ้า

ข้าแต่พ⁠ร⁠ะ⁠ย⁠า⁠ห⁠์⁠เ⁠ว⁠ห⁠์ เพราะพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ทรงอวยพรคนชอบธรรม พ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ทรงคุ้มครองพวกเขาไว้ด้วยค⁠ว⁠า⁠มโปรดปรานประดุจโล่ (สดุดี 5:12 - ฉบับมาตรฐาน)

ค⁠ว⁠า⁠มโปรดปรานของพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าเปรียบเสมือนโล่ที่โอบล้อมและปกป้องคุณรอบด้าน คุณจึงปลอดภัยอย่างแท้จริงภายใต้ค⁠ว⁠า⁠มโปรดปรานขององค์พระผู้เป็นเจ้า

ค⁠ว⁠า⁠มโปรดปรานขององค์พระผู้เป็นเจ้าในแง่มุมหนึ่ง เป็นสัญลักษณ์ของเมฆแห่งการสถิตของพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ สุภาษิต 16:15 (ฉบับมาตรฐาน) ก⁠ล⁠่⁠า⁠วไว้ว่า

ชีวิตมีอยู่ในค⁠ว⁠า⁠มสว่างแห่งพระพักตร์พระราชา และค⁠ว⁠า⁠มโปรดปรานของพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์เห็นเหมือนเมฆฝนปลายฤดู

ดังนั้น เมื่อคุณมีค⁠ว⁠า⁠มโปรดปรานของพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าในชีวิตของคุณ คุณก็กำลังดำเนินอยู่ภายใต้เมฆแห่งฝนปลายฤดู

สุภาษิต 19:12 (ฉบับมาตรฐาน) บอกเราต่อไปว่า:

พระพิโรธของพระราชาเหมือนเสียงคำรามของสิงห์หนุ่ม แต่ค⁠ว⁠า⁠มโปรดปรานของพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์เหมือนน้ำค้างบนหญ้า

ดังนั้น ค⁠ว⁠า⁠มโปรดปรานของพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าจึงเปรียบเสมือนเมฆแห่งฝนปลายฤดู และยังเหมือนน้ำค้างบนหญ้า คุณไม่จำเป็นต้องแห้งแล้งฝ่ายวิญญาณเลยเมื่อคุณดำเนินอยู่ภายใต้ค⁠ว⁠า⁠มโปรดปรานของพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠า!"

นอกจากนี้ หากคุณดำเนินชีวิตอยู่ในค⁠ว⁠า⁠มโปรดปรานขององค์พระผู้เป็นเจ้า คุณก็จะนำเมฆและน้ำค้างนั้นติดตัวไปในทุกที่ที่คุณไป และคุณจะนำพระพรไปสู่ประชากรของพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าด้วย จะมีสิทธิพิเศษใดที่ย⁠ิ⁠่⁠ง⁠ใ⁠ห⁠ญ⁠่กว่านั้นอีกเล่า?

บุตรและผู้รับใช้ที่ถ่อมใจของพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠า ผู้ที่ดำเนินชีวิตในค⁠ว⁠า⁠มยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้า ภายใต้เมฆแห่งค⁠ว⁠า⁠มโปรดปรานของพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠า คือ 'ผู้ที่นำฝนมาให้' เขาจะอวยพรทุกคนที่เขาติดต่อสัมพันธ์ด้วยโดยอัตโนมัติ มีกลิ่นหอมอยู่รอบตัวเขา; มีการสถิตอยู่ภายในเขา; มีบางสิ่งปกคลุมเขา ที่ติดตามเขาไปในทุกที่ที่เขาไป

พ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠ายังคงทรงเสาะแสวงหาทั่วทั้งแผ่นดินโลก เพื่อจะพบผู้ที่มีใจซื่อตรงต่อพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ คือ ผู้ที่ยอมรับพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ให้ทรงเป็นพ⁠ร⁠ะ⁠เ⁠จ⁠้⁠าของตน และผู้ที่เรียนรู้จักค⁠ว⁠า⁠มยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้า เมื่อพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ทรงพบคนเช่นนั้น พ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์จะทรงสำแดงพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์เองอย่างเข้มแข็งเพื่อเขา และทรงสำแดงค⁠ว⁠า⁠มโปรดปรานของพ⁠ร⁠ะ⁠อ⁠ง⁠ค⁠์ในชีวิตของผู้นั้น และผ่านชีวิตของผู้นั้น ขอให้เราเลือกที่จะเป็นคนเช่นนั้นเถิด

12
แบ่งปัน