ใจที่ซื่อตรงต่อพระเจ้า (ตอนที่ 2)

Teaching Legacy Letter
*First Published: 2001
*Last Updated: ธันวาคม 2025
9 min read
ในจดหมายฉบับที่แล้ว เราได้เห็นแล้วว่าความกลัวตามธรรมชาติ, ความกลัวจากวิญญาณชั่ว, ความกลัวทางศาสนา, และความกลัวมนุษย์ เป็นความกลัวสี่ประเภทที่ไม่ใช่ความยำเกรงพระเจ้า เวลานี้เราจะมาพิจารณากันว่าความยำเกรงพระเจ้านั้นคืออะไร ซึ่งสามารถนิยามได้หลายแบบ และเราจะมาดูคำนิยามบางส่วนที่ปรากฏในพระคัมภีร์ด้วย แต่โดยสรุปแล้ว เราสามารถกล่าวได้ว่า ความยำเกรงพระเจ้า คือ การยอมให้พระยาเวห์ (หรือองค์พระผู้เป็นเจ้า) ทรงเป็นพระเจ้าของคุณ นั่นคือ ท่าทีแห่งความเคารพยำเกรง, ความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่, และการยอมจำนนต่อพระเจ้า
ในพระธรรมสดุดีและสุภาษิต เราค้นพบสองแง่มุมของความยำเกรงพระเจ้า สดุดี 34:11 (ฉบับมาตรฐาน) กล่าวไว้ว่า
"มาเถิด ลูกเอ๋ย มาฟังเรา เราจะสอนเจ้าถึงความยำเกรงพระยาห์เวห์"
ขอให้สังเกตว่า ความยำเกรงพระเจ้านั้นต้องได้รับการสอน ผมเชื่อว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์กำลังตรัสในสดุดีบทนี้ว่า “ให้เราสอนเจ้าถึงความยำเกรงพระเจ้า” สุภาษิต 1:28-29 (ฉบับมาตรฐาน) กล่าวว่า:
แล้วพวกเขาจะร้องเรียกข้า แต่ข้าจะไม่ตอบ พวกเขาจะแสวงหาข้า แต่จะไม่พบข้า เพราะว่าพวกเขาเกลียดความรู้ และไม่เลือกเอาความยำเกรงพระยาห์เวห์
ผมอยากจะย้ำให้คุณตระหนักว่า คุณต้องเลือกความยำเกรงพระยาห์เวห์ในชีวิตของคุณ หากคุณไม่ทำเช่นนั้น จะมีเวลาหนึ่งมาถึงคุณเมื่อคุณอธิษฐานแล้วพระเจ้าจะไม่ทรงตอบ และเมื่อคุณแสวงหาพระองค์ แต่คุณจะไม่พบพระองค์
คราวนี้ ให้เรามาดูข้อพระคัมภีร์บางตอนที่บอกเราว่า ความยำเกรงพระยาห์เวห์จะทำอะไร สุภาษิต 1:7, 9:10, 15:33; สดุดี 111:10 และโยบ 28:28 ล้วนเชื่อมโยงความยำเกรงพระยาห์เวห์เข้ากับสติปัญญาและความรู้ “ดูเถิด ความยำเกรงองค์เจ้านาย นั่นแหละคือปัญญา และการหันเสียจากความชั่วร้าย คือ ความเข้าใจ” (โยบ 28:28 - ฉบับมาตรฐาน) ความยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าทำให้เรามีสติปัญญา
สดุดี 19:9 (ฉบับมาตรฐาน) กล่าวว่า “ความยำเกรงพระยาห์เวห์นั้นสะอาดหมดจด ถาวรเป็นนิตย์” ความยำเกรงพระยาห์เวห์จะไม่มีวันถูกยกเลิก เป็นสิ่งที่ดำรงอยู่ตลอดไป เป็นสิ่งที่บริสุทธิ์ และจะทำให้คุณบริสุทธิ์ด้วย (หมายเหตุ: คำว่า “สะอาดหมดจด” ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย แปลว่า "บริสุทธิ์" - ผู้แปล)
"ความยำเกรงพระยาห์เวห์นั้นยืดชีวิตให้ยาว แต่ปีเดือนของคนอธรรมจะสั้นเข้า" (สุภาษิต 10:27 - ฉบับมาตรฐาน)
นั่นชัดเจนมาก: หากคุณปรารถนาชีวิตที่ยืนยาวและมีความสุข ก็จงยำเกรงพระยาห์เวห์
สุภาษิต 16:6 (ฉบับมาตรฐาน) "โดยความจงรักภักดีและความซื่อสัตย์ ความบาปชั่วก็ถูกลบล้าง และโดยความยำเกรงพระยาห์เวห์ คนหันจากความชั่วร้ายได้" (หมายเหตุ: ฉบับคิงเจมส์ แปลว่า "ความเมตตาและความจริงได้ลบความชั่วช้า" - ผู้แปล)
หากคุณยำเกรงพระยาห์เวห์ คุณจะหันเหออกจากความชั่วร้าย คุณจะหลีกเลี่ยงมัน
สุภาษิต 14:26-27 (ฉบับมาตรฐาน) "ผู้ที่ยำเกรงพระยาห์เวห์ย่อมมีสวัสดิภาพ (ดังที่ผมได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ว่า ถ้าคุณยำเกรงพระยาห์เวห์ คุณก็ไม่จำเป็นต้องกลัวสิ่งอื่นใดในชีวิต) ลูกหลานของเขาจะมีที่ลี้ภัย (ที่ลี้ภัยนั้นมีเงื่อนไขด้วย คือ พระเจ้าทรงปกป้องผู้ที่ยำเกรงพระองค์) ความยำเกรงพระยาห์เวห์เป็นน้ำพุแห่งชีวิต เพื่อให้คนหลีกจากบ่วงมรณาได้" (หมายเหตุ : คำว่า "สวัสดิภาพ" ในฉบับคิงเจมส์ แปลว่า "อยู่อย่างมั่นใจมาก" - ผู้แปล)
พระพรสี่ประการที่ระบุไว้ในที่นี้คือ มั่นใจมาก, ที่ลี้ภัย, น้ำพุแห่งชีวิต, และการหลีกจากบ่วงของความมรณา
"บำเหน็จของความถ่อมตัวและความยำเกรงพระยาห์เวห์ คือ ความมั่งคั่ง เกียรติ และชีวิต (สุภาษิต 22:4 - ฉบับมาตรฐาน)
นี่เป็นพระพรอีกสามประการคือ ความมั่งคั่ง, เกียรติ, และชีวิต!
สุดท้ายนี้ ผมคิดว่าไม่มีพระสัญญาใดที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าพระสัญญาที่ปรากฏในสุภาษิต 19:23 (ฉบับมาตรฐาน)
"ความยำเกรงพระยาห์เวห์นำไปสู่ชีวิต และผู้ยำเกรงพระองค์จะอยู่อย่างผาสุก จะไม่มีสิ่งร้ายใดๆ มาแผ้วพาน"
ผมไม่รู้ว่าคุณจะขออะไรมากไปกว่าสิ่งนั้นอีกแล้ว คือ การได้อยู่ในความพึงพอใจ และไม่พบกับความชั่วร้าย!
การดำเนินชีวิตด้วยความยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้า
พระคัมภีร์ระบุว่า ความยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ที่ใช้อำนาจปกครองผู้อื่น “พระเจ้าแห่งอิสราเอลทรงกล่าวว่า... ‘เมื่อผู้หนึ่งปกครองมนุษย์โดยชอบธรรม คือ ปกครองด้วยความยำเกรงพระเจ้า’” (2 ซามูเอล 23:3 - ฉบับมาตรฐาน)
มีข้อกำหนดสองประการสำหรับการเป็นผู้นำฝ่ายวิญญาณ ประการแรก คือ ความรักต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า และประการที่สอง คือ ความยำเกรงพระเจ้า เมื่อพระเยซูทรงเรียกเปโตรให้เลี้ยงดูลูกแกะของพระองค์ พระองค์ตรัสถามว่า “ท่านรักเราหรือ” (ดู ยอห์น 21:15-19) และพระองค์ทรงถามถึงสามครั้ง! จากนั้นพระองค์ก็ตรัสว่า “ถ้าท่านรักเรา จงเลี้ยงดูแกะของเรา” ความรักต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า และต่อผู้คนของพระองค์นั้นเป็นสิ่งจำเป็น อย่างไรก็ตาม หากคุณพยายามรับใช้ด้วยความรักที่มีต่อผู้คนเพียงอย่างเดียว ในที่สุดคุณจะต้องเผชิญกับคนที่ท้าทายความรักของคุณจนถึงขีดสุด มีเพียงความรักที่มีต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าเท่านั้นที่จะทำให้คุณยังคงซื่อสัตย์ในสถานการณ์เช่นนั้นได้
นอกจากนี้ หากแรงจูงใจเดียวในการรับใช้ของคุณ คือ ความรักที่มีต่อผู้คน ในที่สุดคุณจะถูกล่อลวงให้ทำในสิ่งที่ผู้คนต้องการให้คุณทำ ไม่ใช่สิ่งที่พระเจ้าต้องการให้คุณทำ ณ จุดนี้เอง เราจึงแยกผู้เลี้ยงแกะออกจากผู้รับจ้าง ผู้รับจ้างให้ในสิ่งที่ผู้คนร้องขอ แต่ผู้เลี้ยงแกะให้ในสิ่งที่พระเจ้าตรัสว่าให้มอบแก่พวกเขา มีเพียงความยำเกรงพระเจ้าเท่านั้นที่จะทำให้คุณสามารถทำเช่นนั้นได้!
ให้เรามาพิจารณาเรื่องความยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าในชีวิตและพันธกิจของพระเยซูกัน อิสยาห์ 11:1-2 (ฉบับมาตรฐาน) กล่าวถึงพระเยซูว่า “จะมีหน่อหนึ่งแตกออกจากตอของเจสซี และกิ่งหนึ่งที่งอกจากรากของเขานั้นจะเกิดผล และพระวิญญาณของพระยาห์เวห์จะทรงอยู่บนท่าน คือ พระวิญญาณแห่งปัญญาและความเข้าใจ พระวิญญาณแห่งคำปรึกษาและอานุภาพ พระวิญญาณแห่งความรู้และความยำเกรงพระยาห์เวห์” ลักษณะสำคัญสูงสุดของพระวิญญาณบริสุทธิ์ คือ พระวิญญาณแห่งความยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้า ซึ่งสถิตอยู่กับพระเยซู พระบุตรองค์เดียวของพระบิดา หากมีสิ่งหนึ่งที่เกี่ยวกับพระเยซูซึ่งชัดเจน สิ่งนั้นก็คือ พระองค์ทรงดำเนินชีวิตด้วยความยำเกรงพระเจ้า พระองค์ตรัสถึงพระบิดาของพระองค์ว่า “เราทำตามชอบพระทัยพระองค์เสมอ” (ยอห์น 8:29) “เราจะทำสิ่งใดตามใจไม่ได้” (ยอห์น 5:30) “พระบุตรจะทำสิ่งใดตามใจไม่ได้ นอกจากที่ได้เห็นพระบิดาทำ” (ยอห์น 5:19)
อิสยาห์ 11:3 (ฉบับมาตรฐาน) กล่าวต่อไปว่า “ความชื่นชอบของท่าน คือ ความยำเกรงพระยาห์เวห์…” พระวิญญาณบริสุทธิ์ที่เสด็จมาเหนือพระเยซูนั้นทรงทำให้พระองค์มีความไวเป็นพิเศษต่อพระประสงค์และวิถีทางของพระเจ้า หากมีสิ่งหนึ่งที่เราต้องการในคริสตจักรปัจจุบันนี้ สิ่งนั้นก็คือ ความไวต่อพระประสงค์และวิถีทางของพระเจ้านั่นเอง (หมาเหตุ: ประโยคที่ว่า “ความชื่นชอบของท่าน คือ ความยำเกรงพระยาห์เวห์” ในคิงเจมส์ฉบับภาษาอังกฤษ กล่าวว่า "และพระวิญญาณจะทรงทำให้ท่าน (พระเยซู) มีความเข้าใจอย่างรวดเร็วในความยำเกรงพระยาห์เวห์ - ผู้แปล)
ฮีบรู 5:7 (ฉบับมาตรฐาน) กล่าวถึงพระเยซูว่า:
"ในระหว่างที่พระคริสต์ประทับในโลก พระองค์ทรงถวายคำอธิษฐาน และคำร้องขอด้วยเสียงดังและน้ำพระเนตรไหล ต่อพระเจ้าผู้ทรงสามารถช่วยพระองค์ให้พ้นจากความตายได้ และพระเจ้าทรงสดับเนื่องจากความยำเกรงของพระคริสต์…"
พระเจ้าทรงสดับฟังคำอธิษฐานของพระเยซู เพราะเป็นคำอธิษฐานที่ก่อเกิดจากความยำเกรงพระเจ้า อะไรคือหลักฐานอันยิ่งใหญ่ที่แสดงว่าพระเยซูทรงยำเกรงพระบิดา? ผมเชื่อว่าข้อความตอนนี้อ้างอิงถึงเหตุการณ์ที่สวนเกทเสมนีเป็นสำคัญ ถ้อยคำอะไรที่พระเยซูตรัส ณ ที่นั่นซึ่งเผยให้เห็นถึงความยำเกรงพระเจ้า? กล่าวคือ “อย่าให้เป็นไปตามใจข้าพระองค์ แต่ให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์” (ลูกา 22:42 - ฉบับมาตรฐาน) เมื่อคุณอธิษฐานเช่นนี้ คำอธิษฐานของคุณจะได้รับการสดับฟัง!
เรายังพบอีกว่า ความยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้านั้นปรากฏอยู่ในคริสตจักรยุคแรกด้วย
เพราะฉะนั้น คริสตจักรตลอดทั่วแคว้นยูเดีย กาลิลี และสะมาเรียก็เกิดความสงบสุขและเจริญเติบโต ต่างประพฤติตนด้วยความยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าและรับการหนุนใจจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ คริสตสมาชิกจึงยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้น (กิจการ 9:31 - ฉบับมาตรฐาน)
พวกเขากำลังประสบกับสิ่งที่กล่าวไว้ใน สดุดี 2:11 คือ "จงปรนนิบัติพระยาห์เวห์ด้วยความยำเกรง และจงเปรมปรีดิ์จนเนื้อเต้น" คุณเห็นการผสมผสานนี้หรือไม่? คือ จงเปรมปรีดิ์ แต่จงทำเช่นนั้นด้วยความยำเกรงพระเจ้า อย่าแยกสองสิ่งนี้ออกจากกัน เพราะหากคุณทำเช่นนั้นคุณจะเสียสมดุล เมื่อเราถ่วงดุลความเปรมปรีดิ์ด้วยความตัวสั่น คือ ความยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้า ควบคู่ไปกับการหนุนใจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ แล้วคริสตจักรจะได้รับการเสริมสร้างขึ้น (หมายเหตุ: วลีที่ว่า "จงเปรมปรีดิ์จนเนื้อเต้น" ในฉบับคิงเจมส์ แปลว่า "จงเกษมเปรมปรีดิ์ด้วยตัวสั่น" - ผู้แปล)
1 เปโตร 1:17-18 (ฉบับมาตรฐาน) บอกเราถึงเหตุผลที่เราควรยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า:
และถ้าพวกท่านร้องเรียกพระองค์ว่าพระบิดา ผู้ทรงพิพากษาอย่างไม่มีอคติตามการกระทำของแต่ละคน พวกท่านก็จงดำเนินชีวิตด้วยความยำเกรงในเวลาที่พวกท่านอยู่ในโลกนี้ พวกท่านรู้ว่าพวกท่านได้รับการไถ่ออกจากการดำเนินชีวิตที่ไร้สาระซึ่งตกทอดมาจากบรรพบุรุษของพวกท่าน ไม่ใช่ไถ่ด้วยสิ่งที่เสื่อมสลายได้ เช่น เงินหรือทอง แต่ด้วยพระโลหิตล้ำค่าของพระคริสต์.."
ถ้อยคำเหล่านี้ไม่ได้สื่อถึงผู้ที่ยังไม่เชื่อ แต่สื่อถึงคริสเตียน คือ ผู้ที่ได้รับการไถ่บาปด้วยพระโลหิตของพระคริสต์ เหตุใดเรา (คริสเตียน) จึงต้องใช้เวลาขณะที่เราอยู่ในโลกนี้ด้วยความยำเกรง? ก็เพราะราคาแห่งการไถ่บาปของเรา ซึ่งพระเจ้าได้ทรงจ่ายราคาด้วยพระโลหิตของพระบุตรของพระองค์เพื่อไถ่เรา พระเจ้าประทานพระบุตรของพระองค์เพื่อที่เราจะได้รับการไถ่ให้พ้นจากความโง่เขลา ความไม่รู้ การไม่เชื่อฟัง การกบฏ และความเย่อหยิ่งของเรา
ผมเชื่อว่าพระเจ้าพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงปลูกฝังความยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าไว้ในใจของเรา ผมไม่เชื่อว่าเราจะมีความยำเกรงนี้จนกว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์จะทรงสอนเรา แต่เมื่อเราตอบสนองโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ด้วยความยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าแล้ว เราจึงเริ่มต้นเพลิดเพลินกับความโปรดปรานของพระเจ้า ต่อไปนี้เป็นข้อความสามข้อเกี่ยวกับความโปรดปรานขององค์พระผู้เป็นเจ้า
ข้าแต่พระยาห์เวห์ เพราะพระองค์ทรงอวยพรคนชอบธรรม พระองค์ทรงคุ้มครองพวกเขาไว้ด้วยความโปรดปรานประดุจโล่ (สดุดี 5:12 - ฉบับมาตรฐาน)
ความโปรดปรานของพระเจ้าเปรียบเสมือนโล่ที่โอบล้อมและปกป้องคุณรอบด้าน คุณจึงปลอดภัยอย่างแท้จริงภายใต้ความโปรดปรานขององค์พระผู้เป็นเจ้า
ความโปรดปรานขององค์พระผู้เป็นเจ้าในแง่มุมหนึ่ง เป็นสัญลักษณ์ของเมฆแห่งการสถิตของพระองค์ สุภาษิต 16:15 (ฉบับมาตรฐาน) กล่าวไว้ว่า
ชีวิตมีอยู่ในความสว่างแห่งพระพักตร์พระราชา และความโปรดปรานของพระองค์เห็นเหมือนเมฆฝนปลายฤดู
ดังนั้น เมื่อคุณมีความโปรดปรานของพระเจ้าในชีวิตของคุณ คุณก็กำลังดำเนินอยู่ภายใต้เมฆแห่งฝนปลายฤดู
สุภาษิต 19:12 (ฉบับมาตรฐาน) บอกเราต่อไปว่า:
พระพิโรธของพระราชาเหมือนเสียงคำรามของสิงห์หนุ่ม แต่ความโปรดปรานของพระองค์เหมือนน้ำค้างบนหญ้า
ดังนั้น ความโปรดปรานของพระเจ้าจึงเปรียบเสมือนเมฆแห่งฝนปลายฤดู และยังเหมือนน้ำค้างบนหญ้า คุณไม่จำเป็นต้องแห้งแล้งฝ่ายวิญญาณเลยเมื่อคุณดำเนินอยู่ภายใต้ความโปรดปรานของพระเจ้า!"
นอกจากนี้ หากคุณดำเนินชีวิตอยู่ในความโปรดปรานขององค์พระผู้เป็นเจ้า คุณก็จะนำเมฆและน้ำค้างนั้นติดตัวไปในทุกที่ที่คุณไป และคุณจะนำพระพรไปสู่ประชากรของพระเจ้าด้วย จะมีสิทธิพิเศษใดที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นอีกเล่า?
บุตรและผู้รับใช้ที่ถ่อมใจของพระเจ้า ผู้ที่ดำเนินชีวิตในความยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้า ภายใต้เมฆแห่งความโปรดปรานของพระเจ้า คือ 'ผู้ที่นำฝนมาให้' เขาจะอวยพรทุกคนที่เขาติดต่อสัมพันธ์ด้วยโดยอัตโนมัติ มีกลิ่นหอมอยู่รอบตัวเขา; มีการสถิตอยู่ภายในเขา; มีบางสิ่งปกคลุมเขา ที่ติดตามเขาไปในทุกที่ที่เขาไป
พระเจ้ายังคงทรงเสาะแสวงหาทั่วทั้งแผ่นดินโลก เพื่อจะพบผู้ที่มีใจซื่อตรงต่อพระองค์ คือ ผู้ที่ยอมรับพระองค์ให้ทรงเป็นพระเจ้าของตน และผู้ที่เรียนรู้จักความยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้า เมื่อพระองค์ทรงพบคนเช่นนั้น พระองค์จะทรงสำแดงพระองค์เองอย่างเข้มแข็งเพื่อเขา และทรงสำแดงความโปรดปรานของพระองค์ในชีวิตของผู้นั้น และผ่านชีวิตของผู้นั้น ขอให้เราเลือกที่จะเป็นคนเช่นนั้นเถิด

*Free download
*This Teaching Letter is available to download, print and share for personal or church use.
ดาวน์โหลด PDFรหัส: TL-L031-100-THA